กระแสการแข่งขันรถกลุ่มบี-คาร์ หรือรถยนต์นั่งขนาดเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ปีนี้เชื่อว่าไม่ต่างจากปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ค่ายมาสด้าในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ในกลุ่ม โดยมีมาสด้า 2 เป็นหัวหอกและสร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำจะอยู่นิ่งต่อไปไม่ได้ แม้ยังไม่ถึงเวลาปรับเปลี่ยนโมเดลแต่ค่ายมาสด้ามองว่าต้องมีอะไรใหม่ ๆ กระตุ้นให้ตลาดตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุดทำเอาสาว ๆ ใจละลาย เพราะได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ณเดชน์ คูกิมิยะ ดารานักแสดงวัยรุ่นสุดฮอตในเวลานี้ ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ของมาสด้า 2 ซีดาน 4 ประตู ภายใต้คอนเซปต์ ชีวิตที่ควบคุมได้ สไตล์ซูมซูม ส่วน เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ก็ไม่ได้หายไปไหนยังคงเป็นพรีเซ็นเตอร์ มาสด้า 2 แฮชท์แบ็ค 5 ประตูต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้คอนเซปต์ เริ่มต้นชีวิตสไตล์ ซูมซูม โดยมาสด้า 2 ที่เป็นรุ่นซีดาน 4 ประตู ราคา อยู่ระหว่าง 535,000-675,000 บาท ส่วนแฮชท์แบ็ค 5 ประตูนั้นราคาอยู่ระหว่าง 535,000-690,000 บาท
ทั้งนี้ โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์มาสด้าไว้ที่ 38,500 คัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 4.5% โดยรถยนต์หัวหอกที่จะทำตลาดให้ยอดขายมาสด้าเป็นไปตามเป้าหมาย คือ มาสด้า 2 โดยเฉพาะรถรุ่นนี้ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้สูงถึง 24,000 คัน
ส่วนการดึง ณเดชน์และ เป้-อารักษ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ของมาสด้า 2 ซีดาน และแฮชท์แบ็ค 5 ประตู เพื่อแบ่งกลุ่มเป้าหมายของรถแต่ละรุ่นให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังวางแนวรบกันคู่แข่งที่เริ่มพาเหรดเข้ามาทำตลาดอย่างหนาตา ซึ่งนอกเหนือจากรถในกลุ่มบี-คาร์ หรือที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี ราคา อยู่ระหว่าง 550,000-650,000 บาทแล้วยังมีซับบี-คาร์ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,500 ซีซี ราคาต่ำกว่า 500,000 บาท รวมไปถึงรถประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ เข้าร่วมวงไพบูลย์ด้วยจากเจ้าเดิมที่มีอยู่ในตลาดทั้ง ฮอนด้า ซิตี้, ฮอนด้า แจ๊ซ, โตโยต้า ยาริส, โตโยต้า วีออส, มาสด้า 2, ฟอร์ด เฟียสต้า, นิสสัน มาร์ช ล่าสุดมีน้องใหม่ไฟแรงเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือ ฮอนด้า บริโอ้
เริ่มเห็นความร้อนแรงของรถกลุ่มบี-คาร์ตั้งแต่ต้นปี เชื่อว่าทั้งปีนี้ค่ายรถยนต์คงซัดกันมันหยด เพราะแต่ละค่ายไม่ต้องการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้คู่แข่งไป แต่จะทำอย่างไรให้ยอดขายเพิ่ม อันนี้ต้องรอดูว่าใครสมองไวเข็นกลยุทธ์การตลาดแบบไหนออกมา.
เนตรนภางค์ บุญนายืน
ที่มา เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น