“CT200h ไฮบริด” แค่ 2.19ล้าน...ถูกสุดของเลกซัส วันนี้(22 ก.พ.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว “เลกซัส CT200h ใหม่” ที่กล้าคุยว่านี้คือรถไฮบริดแฮทช์แบคคันแรกของโลก ชูรูปลักษณ์โดดเด่นหรูหรา ผสานสมรรถนะของระบบไฮบริดอันเลื่องชื่อ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับ First Class สนนราคาเริ่มต้น2,190,000 บาท ซึ่งถือเป็นรถรุ่นถูกที่สุดของเลกซัสที่ทำตลาดในไทย
สำหรับสมรรถนะที่โดดเด่น มาจากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง แบบ Atkinson Cycle ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีดอีเลคทรอนิค (EFI) และระบบปรับองศาวาล์วแปรผัน VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าส่งผลให้ระบบเครื่องยนต์เลกซัสไฮบริดไดร์ฟ (Lexus Hybrid Drive) ของรุ่น CT200h มีกำลังเสมือนเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แต่มีค่าคาร์บอนไดอ็อกไซด์ทางไอเสียต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน
นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกรูปแบบการตอบสนองต่อการขับขี่ได้สองแบบ คือ Dynamic และ Relaxing (2 moods 2 modes) โดยจะแสดงผ่านสีของไฟบนหน้าปัด -สีแดงและสีฟ้า- ผสานกับโหมดการขับเคลื่อนอีกสี่รูปแบบ ได้แก่ โหมดขับเคลื่อน Eco กับ Normal เน้นการขับขี่แบบอารมณ์ที่สบายผ่อนคลาย (Relaxing) ในขณะ ที่โหมด Sport จะเน้นไปที่การขับขี่แบบเร้าใจ (Dynamic) นอกจากนี้ในโหมด EV หรือการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถแล่นไปได้อย่างเงียบกริบด้วยพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และการปล่อยไอเสียอย่างก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์(CO2) ก๊าซไนตรัสอ็อกไซด์(NOx) และเขม่ากลายเป็นศูนย์
ประสิทธิภาพเครื่องยนต์
กำลังเครื่องยนต์: 99/5,200 PS/rpm
แรงบิด: 142/2,800 - 4,400 Nm/rpm
เลกซัสได้พัฒนาหน่วยควบคุมกำลังไฟฟ้าขึ้นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังส่งสูงที่สามารถแปลงกระแสไฟกำลังสูงจากหน่วยควบคุมกำลังไฟฟ้าไปเป็นพลังขับเคลื่อนรถยนต์ ระบบดังกล่าวให้สมรรถนะในการเร่งที่เงียบและทรงพลัง ทั้งในขณะออกตัวและให้การตอบสนองที่ดีเลิศแม้ในขณะเร่งเครื่องยนต์ด้วยความเร็วในแบบที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากใช้ระบบเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียว
ประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง
แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 650V
กำลังสูงสุด 60 kw
แรงบิดสูงสุด 207 Nm
แรงม้าสูงสุด (ทั้งระบบ) 134 hp / 136 PS
อัตราเร่ง 0-100 km/h: 10.3 sec
ด้านระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT ซึ่งควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (Electrically Controlled Continuously Variable Transmission) เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ไฮบริดได้อย่างลงตัวและให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ระบบส่งกำลังดังกล่าวประกอบไปด้วยอุปกรณ์ส่งถ่ายกำลังแบบ Split device มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังส่งสูง และเจเนอเรเตอร์
พร้อมคุณลักษณะพิเศษ ของระบบ ไฮบริด ด้วย 2 รูปแบบ 2 อารมณ์การขับขี่ (2 moods 2 modes) ไม่ว่าจะเป็นแบบสบายๆในโหมด Normal, Eco และ EV โดยที่ไฟส่องสว่างหน้าปัทม์จะแสดงเป็นสีฟ้า และการขับขี่แบบสนุกสนานในโหมด Sport โดยที่ไฟส่องสว่างหน้าปัทม์จะเปลี่ยนเป็นสีแดง รวมถึงการตอบสนองของระบบต่างๆ อาทิ VSC TRC ABS รวมถึง น้ำหนักพวงมาลัย เพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต และความสนุกสนานเร้าใจ
ด้วยเทคโนโลยีของ Lexus Hybrid Drive, CT200h จึงปล่อยค่าไอเสียออกสู่บรรยากาศต่ำตามมาตรฐาน Euro Step V ด้วยอัตราเฉลี่ยของ CO2 เพียง 94 กรัม/กม. และนอกจากนี้ยังมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์นั่งระดับเดียวกัน โดยมีอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ย ที่ 24.4 กม/ลิตร
ในส่วนของการออกแบบภายนอก สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้ปรัชญา “L-finesse” ผ่านเส้นสายของตัวถังที่ลื่น ไหลไปตามหลักอากาสพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทานต่ำ (Cd) เพียง 0.29 อีกทั้ง รูปทรงของโป่งล้อที่กว้างเพื่อรองรับกับซุ้มล้อ ทำให้รถดูต่ำแนบพื้น พร้อมฝากระโปรงหน้า และประตูท้ายทำจากอลูมิเนียม ทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วง (CG) ที่ต่ำ รับกับหลังคาที่เทลาด ให้ อารมณ์สปอร์ตรวมถึงการทรงตัวที่ดี
-กระจังหน้ารูปลักษณ์ใหม่ แบบ ‘spindle-shaped’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก รูปแบบของลมที่ปะทะตัวรถในระหว่างที่รถวิ่ง สอดรับกับแนวเส้นสายของตัวถัง
-กระจกด้านหลังมีเส้นสายดีไซน์แบบ ‘Slingshot’
-ไฟหน้าแบบ LED ใหม่ พร้อมไฟ Daytime Running Lights และ ไฟหรี่แบบ LED รูปทรง L- shape
-ไฟท้ายและไฟเบรกใหม่ แบบ LED ให้การส่องสว่างที่ชัดเจนในยามค่ำคืน ให้การตอบสนองที่ ฉับ ไว โดยใช้พลังงานที่ต่ำ พร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ในส่วนของการออกแบบภายใน ด้วยการคำนึงถึงอรรถประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกสบาย ภายใต้หลักการ HMI (Human-Machine Interface) โดยการแบ่งโซนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการควบคุม และ การแสดงผล ด้วยการออกแบบดังกล่าว ทำให้ผู้ขับขี่ ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง ทำให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
“เลกซัส CT200h” ยังมากับ ออปชัน ระบบนำทางจากเลกซัส (Lexus Navigation System) ทำงานโดยแสดงแผนที่แบบ DVD และบอกเส้นทางด้วยระบบเสียง เพื่อการนำทางที่ถูกต้องและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถค้นหาเส้นทางและซูมตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นรายแรกในประเทศไทยสำหรับยนตรกรรมหรูทื่แสดงข้อมูลการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครแบบ Real-time โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อการวางแผนการเดินทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ราคาเลกซัส CT200h
รุ่น ราคา (บาท)
Luxury 2,190,000
F-sport 2,390,000
Premium (ระบบนำทางอัจฉริยะ) 2,590,000
Premium (ระบบนำทางอัจฉริยะและมูนรูฟ) 2,690,000
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น