แม้จะเจอหางเลขสึนามิที่ญี่ปุ่น จนทำให้ค่าย “มาสด้า” เป๋ไปพอสมควร แต่การให้ความสำคัญกับตลาดไทย จึงทำให้ฟื้นการผลิตมาได้เร็วกว่าคาด ทั้ง “มาสด้า3” โฉมใหม่ และรถเล็กตัวจี๊ด “มาสด้า2” ประกอบกับกลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายและตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มาสด้าครึ่งปีแรกดีดตัวแรงทีเดียว ส่วนครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร? “โชอิชิ ยูกิ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด จะมาให้คำตอบ...
สรุปยอดขายช่วงครึ่งปีแรก
นับเป็นอีกช่วงทองของมาสด้า โดยมียอดขายเติบโตสูงสุดกว่า 20% แม้จะเผชิญกับอุปสรรคและผลกระทบจากปัจจัยภายนอกจาก อย่างเหตุการณ์สึนามิในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยทำยอดขายได้ 20,304 คัน ซึ่งรถนั่งมาสด้า2 ยังคงได้รับการตอบรับดีต่อเนื่องมียอดขายกว่า 12,000 คัน ขณะที่มาสด้า3 รุ่น 2.0 ลิตร โฉมใหม่ ที่เริ่มส่งมอบเมื่อเดือนที่ผ่านมามากกว่า 500 คัน หรือรวมมาสด้า3 ทุกรุ่นกว่า 2,000 คัน ขณะที่ปิกอัพบีที-50 ทำได้เกือบ 5,000 คัน เติบโตสูงถึง 104%
มั่นใจยอดขายปีนี้บรรลุเป้า
จากตัวเลขครึ่งปีแรก 20,000 คัน ขณะที่เป้าหมายรวมทั้งปีของมาสด้าในปีนี้อยู่ที่ 38,500 คัน นับว่าประสบความสำเร็จเกินครึ่ง จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายบรรลุเป้าหมาย ซึ่งหากสถานการณ์ยังสดใสเช่นนี้อีกสัก 2 เดือน อาจจะมีการปรับเป้าหมายการขายใหม่ก็ได้ และมาสด้าในไทยยังมีข่าวดี ได้รับโควตาปริมาณรถเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
เชื่อมั่นตลาด-เศรษฐกิจไทย
ภาพรวมการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และหลังจากที่มีการเลือกตั้งส.ส.เรียบร้อยไปด้วยดี รวมถึงอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีเสียงมั่นคง จะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ และเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าต่อเนื่อง ส่วนปัญหาราคาน้ำมันถึงจะสูงขึ้น แต่ไม่น่าสูงเท่ากับช่วง 3-4 ปีก่อน และแม้อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจที่ดีและการจัดแคมเปญของบริษัทรถในช่วงปลายปี จะทำให้ไม่ส่งผลต่อตลาดรถไทย ดังนั้นจึงคาดว่าภาพรวมตลาดรถไทยปีนี้น่าจะเติบโต 5-6% หรืออยู่ที่ 8.4-8.5 แสนคัน
ที่สำคัญหากรัฐบาลใหม่ได้ดำเนินตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการลดภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรก ถือเป็นข่าวดีให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย จึงขอสนับสนุนนโยบายตรงนี้ ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน หรือเงินเดือนผู้มีวุฒิปริญญาตรีเริ่มต้น 15,000 บาท หลายองค์กรก็เตือนให้ระวัง แต่ยังไม่มีคำตอบเรื่องนี้ชัดเจนจากว่าที่รัฐบาลใหม่
ประเมินตลาดต่ำกว่ายี่ห้ออื่น
สาเหตุที่มาสด้ามองภาพรวมตลาดรถไทยต่ำกว่ายี่ห้ออื่นๆ ที่มองน่าจะโต 10% เพราะมองจากฐานการเติบโตในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีที่แล้วที่เติบโตสูงมาก ซึ่งหากคิดจากฐานดังกล่าว การขยายตัว 10% นับเป็นตัวเลขที่สูงมาก มาสด้าจึงประเมินตัวเลขที่เป็นไปได้แน่นอนมากกว่า
กลยุทธ์มาสด้าในครึ่งปีหลัง
ความสำเร็จที่เกิดช่วงที่ผ่านมา มาจากกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนได้อย่างชัดเจน โดยในรึ่งปีหลังนี้มาสด้าจะเดิมเกมการตลาดเชิงรุก โดยใช้สื่อสารการตลาดครบวงจร เพื่อการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในทุกสัมผัส ทั้งช่องทางการสื่อสารระดับแมส และเจาะเฉพาะกลุ่มอย่างสื่อดิจิตัล ในการเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงและการสื่อสารที่โดนใจ เน้นมุมมองจากลูกค้าเป็นหลัก
ขณะเดียวกันยังเพิ่มช่องทางขายให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยจะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 130 แห่งในปีนี้ จากปัจจุบันมีอยู่ 120 แห่ง ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับฮอนด้า จึงตอบโจทย์ที่มีการพูดว่าโชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้าน้อยให้หมดไป
แคมเปญและรถยนต์ใหม่
ล่าสุดมาสด้าจัดแคมเปญ “Give for Give” เพื่อเป็นขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจ และทุกๆ ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีให้กับมาสด้า โดยการเป็นเจ้าของรถมาสด้า2 รับฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะทางตลอด 2 ปี ดอกเบี้ยเพียง 2.4% และประกันภัยชั้นหนึ่งฟรีระยะเวลา 1 ปี
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในอีกไม่กี่เดือนจะมีการเปิดตัว “มาสด้า2” รุ่นปี 2012 แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในขณะนี้ และยังมีจะการผลิตมาสด้า3 รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 โฉมใหม่ ในช่วงต้นปีหน้าเช่นเดียวกับปิกอัพ “มาสด้า บีที-50” โมเดลเชนจ์ด้วย
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น