ฮุนได แอคเซนต์ เตรียมนำเข้าจากเกาหลีมาขายในไทยปลายปีนี้
ค่ายรถแดนกิมจิฉวยโอกาสทอง ตลาดรถยนต์ไทยพุ่งแรง ต่างพากันเตรียมงัดทีเด็ดกวาดยอดขาย โดยเฉพาะตลาดเก๋งขนาดเล็ก “เกีย” ปรับแผนเร่งเปิดตัวซับคอมแพ็กต์ “เกีย ริโอ” โฉมใหม่ สู่ตลาดไทยเร็วขึ้น จากเดิมจะนำเข้าช่วงท้ายปีร่นเวลาเป็นเดือนกันยายน หรือตุลาคมนี้ พร้อมกับเจรจาบริษัทแม่เพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้า ให้ครอบคลุมเซกเมนท์หลักๆ ในไทย ไม่ว่าจะเป็นคอมแพ็กต์ และเอ็มพีวี รวมถึงขอสนับสนุนราคาให้แข่งขันคู่แข่งได้ ส่วนค่าย “ฮุนได” ที่กำลังโตวันโตคืน
ประกาศชัดจะปลุก “ฮุนได แอคเซนท์” ออกมาวิ่งบนถนนไทยอีกครั้ง โดยวางแผนเปิดตัวช่วงปลายปีนี้เช่นกัน ทำให้สองค่ายรถจากเกาหลีใต้ไม่เพียงชนกับซับคอมแพ็กต์ค่ายยักษ์ญี่ปุ่น ยังต้องมาเปิดศึกกันเองด้วย ขณะที่อีกค่ายจากเกาหลีใต้ “ซังยอง” เตรียมเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับแฟนพันธุ์แท้ เล็งนำเข้าปิกอัพรุ่นใหม่มาเปิดตัวส่งท้ายปี หลังจากเผยโฉมรุ่นต้นแบบไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเอาใจคนที่ชื่นชอบความแตกต่าง ท่ามกลางพายุปิกอัพโฉมใหม่ของค่ายญี่ปุ่นช่วงปลายปีนี้
ตลาดรถไทยหลายค่ายประเมินไปในทิศทางเดียวกัน โดยคาดว่าปีนี้จะปิดตัวเลขยอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 900,000 แสนคัน เพราะประเมินพบความต้องการมีสูงมาก จนนายใหญ่โตโยต้า “เคียวอิจิ ทานาดะ” ถึงกับออกปาก ผลิตได้เท่าไหร่ก็ไม่พอขาย เลยต้องขอบริษัทแม่ดึงโควตาการผลิตส่งออกมาเสริม เช่นเดียวกับนิสสันที่ดึงกำลังการผลิตรถส่งออก มาให้กับตลาดในประเทศ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาสูญเสียตัวเลขยอดขายต่างประเทศเดือนละ 4-5 พันคัน ที่สุดเลยตัดสินใจว่าจ้างมิตซูบิชิประกอบปิกอัพ “นิสสัน นาวารา” ให้บางส่วนกว่า 6 หมื่นคัน ซึ่งจะทำให้โรงงานของนิสสันมีความหยืดหยุ่นในการผลิตมากขึ้น นี่แสดงให้เห็นถึงทิศทางของตลาดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้แต่ละค่ายต่างเตรียมกลยุทธ์ เพื่อช่วงชิงยอดขายมาเป็นของตนเองมากที่สุด แม้แต่ค่ายรถจากแดนกิมจิเกาหลีใต้ ต่างพากันหาช่องฉกฉวยโอกาสทองนี้ เตรียมทีเด็ดผลักดันตัวเลขกันอย่างคึกคักเช่นกัน...
ดังจะเห็นจากรายงานของ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ฮุนได มอเตอร์(ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยกับสื่อมวลชนไทยที่ไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ ของฮุนได-เกีย มอเตอร์ ประเทศเกาหลีใต้ ว่าช่วงปลายปีนี้เตรียมจะนำเข้าเก๋งซับคอมแพ็กต์โมเดลใหม่ “ฮุนได แอคเซนต์” (Hyundai Accent) เข้ามาทำตลาดในไทย ช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 แม้จะไม่ระบุรายละเอียดจะนำเข้ารุ่นเครื่องยนต์ขนาดไหนก่อน เพราะกำลังศึกษารายละเอียดความเหมาะสมอยู่ เนื่องจากมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 1400 และ 1600 ซีซี แต่เบื้องต้นจะนำเข้ารุ่นซีดาน หรือแบบ 4 ประตูมาขายก่อน
ส่วนเป้าหมายทางการตลาด เนื่องจากฮุนได แอคเซนต์ เป็นรถนำเข้าราคาจึงสูงกว่าซับคอมแพ็กต์ที่ประกอบในไทย แต่จะชูความแตกต่างที่เหนือกว่า พร้อมใส่ลูกเล่นชนิดลูกค้าต้องหันมาสนใจแอคเซนต์ ประกอบกับหน้าตาของรถที่ไม่เป็นรองใคร บวกกับความใหม่, สด และซิง ย่อมเป็นข้อได้เปรียบของรถรุ่นนี้ (อ่านรายละเอียดhttp://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000088870)
เกีย ริโอ จะเข้ามาทำตลาดไทยช่วงปลายปีนี้
ทางด้านค่าย “เกีย” ที่ทำตลาดในไทย ภายใต้ชื่อบริษัท “ยนตรกิจเกีย มอเตอร์” เตรียมการรุกตลาดไทยเช่นกัน หลังจากเปิดแผนธุรกิจ 5 ปี ประกาศผลักดันยอดขายพุ่ง 10,000 คัน จากปัจจุบันที่ทำได้ปีละไม่ถึงพันคัน โดยกลยุทธ์สำคัญครอบคลุมเรื่องผลิตภัณฑ์ เครือข่ายบริการหลังการขาย ตลอดจนปรับปรุงองค์กรใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของผลิตภัณฑ์จะมีการแนะนำรถใหม่สู่ตลาดต่อเนื่องๆ ทุกปี อย่างเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว “เกีย พิแคนโต เค1” ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับพอสมควร แต่ติดปัญหาการส่งมอบรถจากบริษัทแม่ล่าช้า จึงต้องเร่งให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่อื่นๆ “โจ คยู วาน” ผู้บริหารสูงสุดแบรนด์รถยนต์เกีย บริษัท ยนตรกิจเกีย มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จะมีการนำรถรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมาทำตลาด โดยมองไปที่รถขนาดเล็กกลุ่มซับคอมแพกต์ หรือบี-เซกเมนท์ เพราะเป็นรถกลุ่มที่กำลังได้รับความนิยมจากลูกค้าไทย และกำลังขยายการเติบโตเป็นอย่างมาก
“เดิมเราวางแผนจะนำเข้ารถรุ่นใหม่ เกีย ริโอ เข้ามาทำตลาดช่วงปลายปี แต่ตอนนี้พยายามปรับแผนให้เร็วขึ้น โดยจะเร่งเปิดตัวประมาณช่วงเดือนกันยายน หรือตุลาคมที่จะถึงนี้”
ทั้งนี้เกีย ริโอ เป็นเก๋งซับคอมแพ็กต์ ที่เพิ่งปรับโฉมเปิดตัวไปในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน โดยจะผลิตที่โรงงาน Sohari ประเทศเกาหลี และส่งออกไปทำตลาดในยุโรปประมาณไตรมาส 3 ปีนี้ กับตัวถังแฮทช์แบกก่อน ส่วนตัวถังซีดานที่เพิ่งเผยโฉมเมื่อเร็วๆ นี้ จะเริ่มได้ช่วงต้นปี 2012 ซึ่งหากยนตรกิจเกีย มอเตอร์ สามารถเจรจากับบริษัทแม่สำเร็จให้เปิดตัวเร็วขึ้นสำเร็จ น่าจะไล่หลังจากยุโรปไม่นาน โดยคาดว่าจะทำตลาดกับรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร 90 แรงม้า
นอกจากนี้ยนตรกิจเกีย มอเตอร์ ยังเจรจาขอเพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าให้หลากหลายขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมเซกเมนท์ต่างๆ ในไทย อย่างรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กคาร์ หรือซี-เซกเม้นท์ ที่เกียไม่เคยทำตลาดในไทยมาก่อน หรือกลุ่มเอ็มพีวีที่ทำตลาดในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเกีย คาเรนส์ และเกีย แกรนด์ คาร์นิวัล ที่จะมีการนำโฉมใหม่มาทำตลาดแทน รวมถึงสนใจที่จะทำตลาดรถยนต์ใช้พลังงานทดแทน อย่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ด้วยเช่นกัน
“ในการเจรจากับบริษัทแม่ไม่เพียงเรื่องเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ทำตลาด ยังรวมถึงขอรับการสนับสนุนให้สามารถทำราคาแข่งขันกับรถยนต์คู่แข่งอื่นๆ ในไทยได้ อย่างเช่นเกีย พิแคนโต เค1 ที่ได้รับการช่วยเหลือ จนทำราคาได้ต่ำกว่า 5 แสน สามารถแข่งขันกับอีโคคาร์ และได้รับการตอบรับจากลูกค้าพอสมควร และหากเปิดตัว เกีย ริโอ สู่ตลาดช่วงปลายปีนี้ มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,500 คัน” โจ คยู วานกล่าว
ปิกอัพ รุ่นใหม่ของซังยอง ภายใต็ชื่อ Ssang Young SUT 1 Concept
ส่วนอีกหนึ่งค่ายรถจากแดนกิมจิ “ซังยอง” แม้จะไม่ทำตลาดหวือหวา แต่เป็นอีกค่ายที่มีการทำตลาดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเน้นจับกลุ่มรถเอนกประสงค์ และมีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ ทำตลาดในไทยต่อเนื่อง อย่างล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรถเอสยูวีขนาดเล็ก “ซังยอง โครานโด” (Ssongyong Korando) สู่ตลาด
“ถือว่าซังยองในประเทศไทย มีการทำตลาดต่อเนื่อง และมีฐานกลุ่มลูกค้าพอสมควร โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบรถอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้รุ่นสตาวิค หรือเอสยูวีรุ่นเรกซ์ตัน ทู, รุ่นไครอน และล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวทำตลาดซังยอง โครานโด แต่ผลิตภัณฑ์หลักยังเป็นรถรุ่นสตาวิค จากการเปิดตัวรถใหม่และรุ่นเดิมก็ได้รับความนิยมอยู่ จึงมั่นใจว่าจะมียอดขาย 600-700 คัน จากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทำได้ประมาณ 300 คัน”
เป็นการเปิดเผยของ “วิรัตน์ ผลประดิบ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซังยอง(ประเทศไทย) จำกัด และบอกว่ากลุ่มลูกค้าของซังยองจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่าง มีความเป็นตัวเองชัดเจน ส่วนซังยองก็ให้ความสำคัญกับการบริการ โดยเปิดสาขาโชว์รูมและศูนย์บริการ 7 แห่งทั่วประเทศ ถือว่ามากทีเดียวกับปริมาณยอดขายปัจจุบันของซังยองในไทย
"ปัจจุบันเรามีรถทำตลาดในไทย ครอบคลุมทุกรุ่นที่มีในต่างประเทศ เพราะแม้จะไม่มียอดขายสูงมากนัก แต่เราจะพยายามนำรถยนต์ซังยองแบบต่างๆ มาให้ลูกค้าได้เลือกได้หลากหลายตามความต้องการ โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่ที่งานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ซึ่งเราอาจจะนำเข้ามาทำตลาดในช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้ก็ได้ แต่ไม่ได้จะไปแข่งกับตลาดปิกอัพไทย ที่ค่ายรถญี่ปุ่นครองตลาดอยู่ และจะมีการเปิดตัวโมเดลใหม่หลายยี่ห้อช่วงปลายปีนี้ การที่ซังยองสนใจจะนำปิกอัพเข้ามาทำตลาด เพราะต้องการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความแตกต่างอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น”
สำหรับปิกอัพรุ่นใหม่ของซังยอง ได้มีการเปิดตัวรถต้นแบบในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อว่า “SsangYong SUT 1 Concept” ซึ่งคล้ายกับ Actyon Sports ปิกอัพของซังยองที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน และน่าจะเป็นตัวทำตลาดแทน โดยวางเครื่องยนต์ดีเซล 2000 ซีซี 155 แรงม้า ตามรายงานข่าวเบื้องต้นจะเริ่มทำตลาดในยุโรปและอื่นๆ ช่วงต้นปี 2012 นี้
จากความเคลื่อนไหวของ 3 ค่ายรถยนต์จากแดนกิมจิ นับว่าได้มีการเตรียมรุกตลาดไทย ไม่น้อยหน้าค่ายรถญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีทางเลือกมากขึ้น...
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น