Ford Explorer 4X4 เธอ...เปลี่ยนไป ฟอร์ด เอ็กซ์พลอเรอร์ ถือเป็นหนึ่งในเอสยูวียอดนิยมและแต่ละปีมียอดขายนับแสนคันในตลาดสหรัฐอเมริกา...แต่นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคเบ่งบานของตลาดรถยนต์ประเภทนี้ในช่วงระหว่างทศวรรษที่ 1990 และต้นๆ ของช่วงทศวรรษ 2000
เพราะหลังจากนั้น ภาพรวมทางด้านยอดขายของตลาดเอสยูวีก็นับวันจะเตี้ยลงๆ เนื่องจากรสนิยมของลูกค้ารุ่นใหม่ๆ เปลี่ยนไป ส่วนลูกค้าเก่าๆ ถึงแม้ว่าอยากจะขับ แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสภาพการกินน้ำมันแบบสุดโหดของเอสยูวีสไตล์อเมริกัน ในขณะที่ราคาน้ำมันก็ขึ้นเอาๆ แบบไม่เกรงใจเงินในกระเป๋า ก็เลยตัดใจต้องถอยฉากดีกว่า
กับสภาพเช่นนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีเอสยูวีขนาดกลางและขนาดใหญ่อยู่ในไลน์อัพรถยนต์ที่ขายในตลาดต่างทราบถึงเรื่องนี้ดี ส่วนการจะพยายามสร้างจุดเด่นทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อดึงให้กลุ่มลูกค้าทั้งรุ่นเก่าและใหม่ให้กลับมาสนใจได้อีกหรือไม่นั้น ตรงนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางการตลาด และแนวคิดในการพัฒนารถยนต์ของแต่ละค่ายว่าจะเด็ดแค่ไหน
ฟอร์ดก็กำลังทำเช่นนี้อยู่กับเอ็กซ์พลอเรอร์ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อดูผ่านๆ อาจจะคิดว่าก็เป็นแค่โมเดลเชนจ์อีกรุ่นของเอสยูวีสายพันธุ์นี้ แต่ถ้าลงลึกในรายละเอียดจะพบว่า ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจาก 4 เจเนอเรชั่นที่ทำตลาดก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพื้นฐานทางวิศวกรรม ซึ่งดูแล้วเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะจำเป็นเท่าไร
อย่างที่เราทราบกันดีว่า แม้ฟอร์ดจะประสบปัญหาทางด้านการเงินและพยายามฟื้นฟูกิจการของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2006 นับจากนายใหม่อย่าง อลัน มูลัลลี่ เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO และพยายามลดต้นทุนการผลิตและพัฒนารถยนต์มาโดยตลอด แต่เอ็กซ์พลอเรอร์นั้นเดิมแชร์พื้นฐานร่วมกับปิกอัพขนาดกลางรุ่นเรนเจอร์ (คนละแบบกับบ้านเรา) มาโดยตลอด ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนพื้นฐานตรงนี้ เพราะปิกอัพเหล่านี้ก็ยังมีขายอยู่ในตลาด และสามารถแชร์พื้นฐานร่วมกันได้
แต่สุดท้ายฟอร์ดกลับเลือกที่จะเปลี่ยนให้เอ็กซ์พลอเรอร์มาใช้พื้นฐานของรถเก๋งขนาดกลางอย่างฟอร์ด ทอรัส หรือลินคอล์น MKS และ MKT ใช้เลย์เอาต์ตัวถังแบบเครื่องยนต์วางขวางด้านหน้า และขับเคลื่อนล้อหน้า โดยมีจุดเด่นในเรื่องการตอบสนองการขับทั้งสมรรถนะ การยึดเกาะ และความนุ่มนวลบนออนโรดที่ไม่ต่างจากรถเก๋งเพราะใช้พื้นฐานระบบช่วงล่างเดียวกันแบบปีกนกคู่ SLA สำหรับด้านหน้า และอิสระ มัลติลิงก์สำหรับด้านหลัง แต่การลุยบนเส้นทางออฟโรดเป็นรองเอสยูวีที่ใช้แชสซีส์แบบขั้นบันไดของปิกอัพ
ตรงนี้เป็นความกล้าที่จะเสี่ยงมาก เพราะเท่ากับเอาเดิมพันในด้านความเชื่อมั่นของลูกค้าเก่ามาเสี่ยง แต่ถ้ามองอีกมุมก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าจะเสี่ยง เนื่องจากฟอร์ดน่าจะคิดและทำการบ้านมาเรียบร้อยแล้วว่า กลุ่มลูกค้าของพวกเขาใช้งานเอ็กซ์พลอเรอร์ในแบบไหนมากกว่ากันระหว่าง 'ออนโรด' กับ 'ออฟโรด' และถ้าผลลัพธ์ออกมาอย่างที่เป็นอยู่ในลักษณะนี้ เชื่อว่าคำตอบที่ได้จากลูกค้าน่าจะเป็น 'ออนโรด' ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ฟอร์ดได้ทำไปแล้วกับเอ็กซ์พลอเรอร์ใหม่
แน่นอนว่าตรงนี้อาจถูกมองเป็นจุดด้อยสำหรับตัวผลิตภัณฑ์ในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าอีกกลุ่มที่ยึดมั่นสมรรถนะในการใช้งานแบบออฟโรด แต่ฟอร์ดก็พยายามทำให้เกิดปัญหานี้น้อยที่สุดด้วยการที่ยังใช้คำว่า 'SUV' หรือ Sport Utility Vehicle ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ต่อไป แทนที่จะเปลี่ยนมาใช้คำว่า Crossover ซึ่งเป็นคำที่ฮอตฮิตสำหรับลูกค้าที่ชอบความอเนกประสงค์ในยุคนี้
นอกจากนั้น อีกประเด็นหลักที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ การใช้พื้นตัวถังรุ่นนี้ทำให้เอ็กซ์พลอเรอร์ใหม่ได้รับอานิสงส์ เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ในรหัส EcoBoost และทำให้เอ็กซ์พลอเรอร์สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่กำลังมองหาเอสยูวียุคใหม่ที่มีความประหยัดน้ำมันได้
สำหรับปัจจุบัน ทิศทางของการพัฒนาเครื่องยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งด้านความประหยัดน้ำมัน สมรรถนะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือ การใช้เครื่องยนต์ที่มีความจุต่ำจับคู่กับระบบอัดอากาศอย่างเทอร์โบ หรือไม่ก็ซูเปอร์ชาร์จ พร้อมกับติดตั้งเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย เช่น ระบบ Di หรือระบบวาล์วแปรผัน เข้าไป เพื่อช่วยในการรีดกำลังให้กับเครื่องยนต์ ขณะที่ความประหยัดก็ลดลง
เครื่องยนต์ EcoBoost ที่นำมาใช้เป็นแบบ 4 สูบ 2000 ซีซี. เทอร์โบ พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง หรือ Di แต่รีดกำลังออกมาได้มากถึง 237 แรงม้า มากกว่าที่ได้รับจากเครื่องยนต์วี6 4000 ซีซี. วางอยู่ในเอ็กซ์พลอเรอร์รุ่นเดิมถึง 27 แรงม้า และมีขายเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า
แต่ถ้าราคาน้ำมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ฟอร์ดก็มีอีกทางเลือกกับเครื่องยนต์วี6 พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Ti-VCT มีความจุ 3500 ซีซี. แต่สามารถรีดกำลังออกมาได้ 290 แรงม้า ใกล้เคียงกับตัวเลขที่ได้จากเครื่องยนต์วี8 4600 ซีซี. และมีขายทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 4 ล้อตลอดเวลา
ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ของตัวรถ ทางฟอร์ดก็พยายามคงความเป็นเอ็กซ์พลอเรอร์เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกในสไตล์บึกบึนแข็งแกร่ง ในรุ่นใหม่นี้ถูกประยุกต์มาจากเส้นสายบนตัวถังของต้นแบบรุ่นเอ็กซ์พลอเรอร์ อเมริกาที่เปิดตัวในปี 2008 รวมถึงจำนวนเบาะนั่งในห้องโดยสาร สามารถรองรับทั้งผู้ขับและผู้โดยสารรวม 7 ที่นั่ง ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว สามารถพับได้อย่างอเนกประสงค์ตามความต้องการ แต่แต่งเติมความหรูหราในทุกรายละเอียด เพื่อให้เอ็กซ์พลอเรอร์สามารถแข่งขันกับเอสยูวีรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในตลาดได้
เปิดตัวออกมาแล้ว พร้อมกับระบุราคาเริ่มต้นเอาไว้ที่ 28,190 เหรียญสหรัฐ โดยจะเริ่มทำตลาดและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงต้นปีหน้า แต่ในช่วงแรกคงเป็นตลาดอเมริกาเหนือเพียงอย่างเดียว ส่วนประเด็นที่ว่า ความเปลี่ยนแปลงไปของเอ็กซ์พลอเรอร์จะมีอะไรต่อความเชื่อมั่น และส่งผลต่อเนื่องไปยังยอดขายในตลาดหรือไม่นั้น...เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป
ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น