เตอร์ ชเรเยอร์ ชาวเยอรมันได้ออกแบบให้ “เกีย โซล” ฉีกดีไซน์รูปแบบเดิม ๆ สู่ความล้ำสมัยโดดเด่นของเส้นสายที่แข็งแกร่ง ทรงเหลี่ยมขนาดกะทัดรัด เร้าใจ รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ กระจกด้านหน้าลาดเอียงเข้ากับกระจกหน้าด้านข้างเสาเอและเสาบีสีดำ รับกับด้านข้างตัวรถที่ตกแต่งสไตล์สปอร์ตคมเข้มด้วยเส้นขอบสีดำ ส่วนขอบประตูเข้ากับเส้นสายหลังคาที่ลาดเอียงต่อเนื่องจากด้านหน้าจรดด้านท้าย ซึ่งมีรูปทรงเหลี่ยมมุมฉากติดตั้งสปอยเลอร์เอาไว้
ภายในของรถยนต์เกีย โซล ล้ำสมัยด้วยสีทูโทน ดำ-แดงสดใส แผงหน้าปัดมีจอแอลซีดี มาตรวัดทรงกลม เมทัลลิก เพนท์ ออกแบบสไตล์สปอร์ต ส่วนแสดงผลจากทริป คอมพิวเตอร์แบบใหม่ตัวหนังสือสีแดงมองเห็นชัดเจน กระจกส่องหลังปรับแสงอัตโนมัติและจอมอนิเตอร์จากกล้องที่ติดตั้งด้านกันชนท้ายเสริมมุมกว้าง 130 องศา เบาะหนังแท้ขนาดใหญ่ ที่นั่งด้านท้ายสามารถปรับแยก 60/40 และปรับเป็นแนวราบกับพื้นรถ เพิ่มพื้นที่ใส่ของด้านท้ายมากพอบรรทุกจักรยานเสือภูเขาได้ถึง 2 คัน ฟังก์ชั่นการใช้งานง่ายอำนวยสะดวกสบายมากมาย เช่น เครื่องเสียงล้ำสมัย หน้าปัดแสงสีแดงสะท้อนอารมณ์และจังหวะดนตรี พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบการสื่อสารต่าง ๆ ครบครัน
เกีย โซล ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว พร้อมหัวฉีดมัลติพอยต์ MPI 124 แรงม้า แรงบิด 156 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที ทำให้เผาไหม้สะอาดหมดจด ประสิทธิภาพสูง ประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงล่างตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมมั่นใจด้วยระบบเกียร์ทิปทรอนิกที่ปรับเปลี่ยนได้ในสไตล์สปอร์ตและนุ่มนวลด้วยระบบเบรกเอบีเอสและระบบกระจายแรงเบรก (อีบีดี)
การทดสอบครั้งนี้ได้นักแข่งรถชื่อดังในอดีต คุณเอก หรือ ทนง ลี้อิสสระนุกูล กรรมการผู้จัดการกลุ่มสิทธิผลมาทดสอบ โดยให้ความเห็นว่าตำแหน่งที่นั่งคนขับดีสามารถมองเห็นชัดเจนรอบคัน อีกทั้งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรถอีโคคาร์, เอสยูวี, เอ็มพีวี และรถมินิ หรือ 4 อิน 1 ดีไซน์ออกมาอย่างมีรสนิยมมาก สำหรับการออกตัวด้วยเกียร์อัตโนมัติรู้สึกอืด ๆ เล็กน้อย เนื่องจากเครื่องยนต์แค่ 1.6 ลิตร ถ้าใส่เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรคิดว่าจะออกตัวได้เร้าใจกว่านี้ อย่างไรก็ตาม มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกขับด้วย
ต้องบอกว่ารถคันนี้ไม่ใช่คนเกาหลีออกแบบแน่นอน เพราะทุกตำแหน่งการใช้งานง่าย รวมทั้งใส่ใจในรายละเอียดมาก เช่น มีกล้องตรงกระจก มาตรวัดระยะมีสีบ่งบอกการทำงาน หรือกรณีที่หน้ารถเชิดเพราะมีน้ำหนักถ่วงด้านท้าย ระบบไฟหน้าจะกดให้ไฟต่ำลงอัตโนมัติ ให้ความรู้สึกการขับเหมือนรถยุโรป รถเกาะถนนดีมาก แม้เข้าโค้งแรงรถไม่มีอาการเอียง ไม่มีเสียงดัง ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นคงมีอาการท้ายส่ายน่ากลัว ระบบเบรกดีมากอย่างตอนเบรกกะทันหันไม่มีอาการโยนหน้าโยนหลังให้เวียนหัว
“หากให้ดาวระบบแฮนเดอร์ริงทั้งหมดกับเกีย โซล ผมให้ 5 ดาว เพราะเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แต่ถ้าใส่เครื่อง 1.8 ลิตรแล้วใส่เทอร์โบเล็กลูกเดียวจบ ผมเหยียบความเร็วกว่า 100 กม./ชม. มีเสียงลมพอประมาณซึ่งรถระดับนี้ถือว่าเยี่ยมมาก เวลาตกหลุมยังรู้สึกนิ่มนวลไม่กระเทือนเหมือนรถยุโรปบางแบรนด์
ด้วยช่วงล่างดีให้ 5 ดาว วงเลี้ยวก็แคบขับสนุกไม่เบื่อเลย ส่วนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเท่าที่ดูคิดว่าประหยัดมากเต็มถังน่าจะวิ่งได้มากกว่า 500 กม. โดยเฉพาะยังใช้อี 20 ได้ด้วยผมให้ 5 ดาวเช่นกัน”
คุณเอกสรุปบททดสอบเกีย โซล ว่าทุกอย่างดีไซน์ได้ลงตัวสมกับสมรรถนะ แต่ค่ายยนตรกิจเกีย มอเตอร์ผู้นำเข้าและทำตลาด จะทำอย่างไรให้บริการหลังการขายเป็นที่ประทับใจมากกว่าในอดีต นั่นคือโจทย์ใหญ่ที่ต้องจับตา!.
ลำยอง ปกป้อง
ที่มา เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น