ตอนแรกที่นิสสันปล่อยข่าวว่า จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับเอสยูวีหรูสายพันธุ์มูราโน ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นแค่ต้นแบบสำหรับจัดแสดง เพราะดูจากภาพคร่าวๆ เอสยูวีกับการเปิดประทุน ดูเหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้ดีเมื่อต้องกลายเป็นรถยนต์ในสายการผลิต แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็กลายเป็นจริง และโปรเจ็กต์นี้ไม่ใช่แค่การทำขึ้นมาโชว์ในงานมอเตอร์โชว์เพียงอย่างเดียว
ผลผลิตใหม่นี้ถูกเรียกว่ามูราโน ครอสส์คาบริโอเลต โดยเปิดตัวครั้งแรกในงานแอลเอ มอเตอร์โชว์ 2010 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะเริ่มวางขายในตลาดประมาณต้นปีหน้า พร้อมกับสร้างความฮือฮาด้วยการฉีกแนวคิดในการนำเอสยูวีมาถอดหลังคาแข็งออก และติดตั้งระบบหลังคาผ่าใบแบบพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมกับได้รับการขนานนามว่าเป็นรถยนต์แบบครอสโอเวอร์ขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นแรกของโลกที่มาในแบบเปิดประทุน
แม้ตัวรถจะได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของมูราโนรุ่นปัจจุบัน แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างตัวถังใหม่ทั้งหมด เพราะว่าของเดิมเป็นแบบ 5 ประตู แต่สำหรับรุ่นใหม่นี้เป็นแบบ 2 ประตูเปิดประทุน ดังนั้นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถังหลักจึงมีความจำเป็น เช่นเดียวกับการออกแบบภาพรวมของตัวรถให้ดูกลมกลืนและไม่แปลกตา
บานประตูของรุ่นเปิดประทุนเมื่อเปรียบเทียบกับกับรุ่น 5 ประตูแล้วจะยาวกว่า 7.9 นิ้ว ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการเข้า-ออกของผู้โดยสารบนเบาะนั่งด้านหลัง เสากลางหรือ B-Pillar ถูกถอดออก ดังนั้นหน้าที่ในการป้องกันอันตรายจากการพลิกคว่ำของตัวรถคือ ความแข็งแกร่งของเสากระจกบังลมหน้า หรือ A-Pillar ขณะที่จะมีคานนิรภัยที่เรียกว่า Pop-up Rolls Bars กระเด้งขึ้นมาจากทางด้านหลังของเบาะนั่งหลังหากตัวรถมีการพลิกคว่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของผู้โดยสารด้านหลังกระแทกเข้ากับพื้นถนน ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd อยู่ที่ 0.39
หน้าที่ของการขับเคลื่อนเป็นงานของเครื่องยนต์เบนซินวี6 ทวินแคม 24 วาล์ว 3,700 ซีซี มีกำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 36.6 กก.-ม. พร้อมระบบ NICS-Nissan Variable Induction Control System มีอัตราส่วนการอัดอยู่ที่ 10.3 : 1 และRedline เริ่มที่ 6,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านทางเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT แบบ Xtronic และมีโหมดให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ +/- ได้ ซึ่งเรียกว่า ASC-Adaptive Shift Control
ในส่วนของระบบกันสะเทือนไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่น 5 ประตู โดยตัวรถ ยังใช้พื้นตัวถังแบบ D-Platform ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ แต่มีการปรับเซ็ตรายละเอียดและ บุคลิกของช่วงล่างให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบเปิดประทุน โดยเฉพาะการขับเล่นกินลมมากกว่า การลุยบนเส้นทางออฟโรด
เดือนมีนาคม 2011 วางขายแน่นอน แต่นิสสันไม่ได้บอกว่าจะมีแค่สหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว หรือว่าจะส่งขายในตลาดทั่วโลกด้วย
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น