แม้ในตลาดสหรัฐอเมริกา และภาพรวมตลาดโลกจะทำยอดขายสู้คู่แข่งไม่ได้ แต่ทว่าออดี้กลับผงาดขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูของยุโรปเมื่อทำยอดขายในปีที่แล้วแซงหน้าทั้งบีเอ็มดับเบิลยู และเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยตัวเลขมากกว่า 623,000 คัน
ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูสามารถเบียดชิงเบนซ์เพื่อครองอันดับที่ 2 ของตลาดหรูในยุโรปมาได้ โดยปีที่แล้ว ทางค่ายใบพัดสีฟ้ามียอดขาย 609,196 คัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 6.5% ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์มีตัวเลขเพียง 586,146 คัน ขณะที่ออดี้ซึ่งครองเป็นหมายเลข 1 ในตลาดหรูยุโรปปี 2010 มียอดขาย 623,536 คัน โดยตรงนี้มาจากแรงหนุนในด้านยอดขายของเดือนธันวาคมที่แล้ว ซึ่งตัวเลขของออดี้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วถึง 16% ขณะที่คู่แข่งเพิ่มขึ้นด้วยตัวเลขเพียงหลักเดียวเท่านั้น
‘การฟื้นตัวของตลาดพรีเมียมในยุโรปเมื่อปี 2010 ถือเป็นอีกสัญญาณที่ดีซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ตลาดยุโรปประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจถดถอยมาหลายปี และเชื่อว่าภาพรวมของตลาดจะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้อย่างแน่นอน โดยตลาดเยอรมนียังเป็นตลาดหลักของยุโรป และปีหน้าจะถือว่าเป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับผู้เล่นทั้ง 3 ค่ายอย่างมาก’ Philippe Barrier นักวิเคราะห์ของ Societe Generale ที่ปารีสกล่าว
นับจากปี 2009 เป็นต้นมา ตลาดรถยนต์หรูในยุโรปได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจแบบเต็มๆ เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่หันไปสนใจรถยนต์ที่มีขนาดเล็กลง และประหยัดน้ำมันขึ้น เช่นเดียวกับลูกค้าในกลุ่ม Fleet ที่ส่วนใหญ่เลือกที่จะลดต้นทุนด้วยการมองหารถยนต์ที่มีขนาดเล็กและประหยัดน้ำมันโดยเป็นผลมาจากการสนับสนุนในด้านภาษีจากทางภาครัฐ
สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ในครั้งนี้ต้องเสียอันดับที่ 2 ในตลาดหรูไปให้กับบีเอ็มดับเบิลยู โดยเป็นผลมาจากยอดขายรถยนต์รุ่นหลักในยุโรปไม่หวือหวา เพราะทั้ง S-Class และ E-Class ได้รับความนิยมในตลาดนอกยุโรปเป็นหลัก แถมยอดจดทะเบียนยังลดลงถึง 0.1%
ขณะที่ C-Calss เพิ่งจะมีการเผยโฉมรุ่นใหม่แบบปรับโฉมเมื่อปลายปี จึงไม่สามารถต้านทานความแรงของซีรีส์ 5 ซีดานได้ เช่นเดียวกับออดี้ก็มีหมัดเด็ดทั้งรุ่นใหญ่อย่าง A7 และรุ่นเล็กสำหรับกวาดตลาดหรูระดับล่างในการเก็บสกอร์เพิ่มตัวเลขอย่าง A1
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น