จีเอ็ม เกาหลี ได้ฤกษ์อวดโฉม เชฟโรเลต มีเรย์ (MIRAY) รถสปอร์ตโรดสเตอร์ต้นแบบที่งานโซล มอเตอร์โชว์ 2011 เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีเชฟโรเลต พร้อมรุกตลาดใหม่ในเกาหลี ด้วยที่สุดแห่งงานออกแบบอันล้ำยุค
ในภาษาเกาหลี 'มีเรย์' (MI RAY) สื่อความหมายถึงอนาคต ซึ่งมีนัยสำคัญ จากการที่ จีเอ็ม ได้เริ่มแนะนำแบรนด์เชฟโรเลต สู่ตลาดเกาหลี ดังนั้น รถต้นแบบ มีเรย์ จึงนำเสนอแนวทางแห่งอนาคตของแบรนด์ที่จะเชื่อมโยงผู้ขับขี่และตัวรถให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอรูปลักษณ์อันสดใหม่ในแบบที่รถสปอร์ตควรจะเป็นในอนาคต
มีเรย์ ได้รับการพัฒนาโดยแอดวานซ์ ดีไซน์ สตูดิโอ ศูนย์การออกแบบยานยนต์ของจีเอ็ม ในกรุงโซล เป็นการผสมผสานกันของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริด และรูปลักษณ์อันล้ำสมัย ขณะเดียวกัน มีเรย์ยังสร้างความสมดุลระหว่างงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต กับแนวทางของการออกแบบในอนาคต เนื่องในโอกาสที่เชฟโรเลต เฉลิมฉลองครบหนึ่งศตวรรษในปี 2554 นี้
มีเรย์ ถือเป็นการสานต่อตำนานรถสปอร์ตคลาสสิกของเชฟโรเลต ไม่ว่าจะเป็นตัวถังที่มีขนาดเล็ก เปิดหลังคาเหมือนกับเชฟโรเลต คอร์เวร์ มอนซ่า เอสเอส ปี 1963 น้ำหนักเบาและเอื้อต่อการใช้งานอเนกประสงค์เหมือนกับคอร์เวร์ ซูเปอร์ สไปเดอร์ ปี 1962 โดยรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้มีเรย์ ดูดุดันคล้ายคลึงกับเครื่องบินรบยุคใหม่
ตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และคาร์บอนไฟเบอร์เสริมโพลิเมอร์ (CFRP- Carbon Fiber-ReinforcedPlastic) ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน และน้ำหนักเบา การออกแบบด้านข้างทรงลิ่มรับกับเส้นสายสันคม ที่มีเส้นไฟส่องสว่าง ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวรถขณะพุ่งทะยานไปข้างหน้า พร้อมกับสร้างความร้อนแรงบนตัวถังรถอันดุดัน สำหรับประตูเปิดขึ้นแบบปีกนกคล้ายกับรถแข่งเลอมังส์ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้สัมผัสห้องโดยสารอย่างเต็มตา
ด้านหน้ารถตอกย้ำดีเอ็นเอเชฟโรเลต กระจังหน้าสองชั้นเคียงคู่กับไฟหน้าแบบแอลอีดี คู่กับเส้นสายไฟหน้าที่ส่องสว่างในเวลากลางวันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของเชฟโรเลต ซุ้มล้อหน้าและหลังขนาดใหญ่เป็นการสานต่อความสปอร์ตเต็มพิกัดจากเชฟโรเลต คอร์เวทท์ ด้านล่างของกันชนติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มแรงกด และความไหลลื่นของอากาศ
ปีกสปอยเลอร์หลังปรับระดับได้ เพิ่มแรงกดท้ายและช่วยควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งถูกออกแบบให้มีฝาถังน้ำมัน และช่องชาร์จไฟติดตั้งอยู่ด้านล่างอย่างแนบเนียน โดยช่องชาร์จไฟมีมาตรวัดแสดงความจุแบตเตอรี่อยู่ด้วย ขณะที่ซุ้มล้อหลังทั้งสองด้านมีช่องสำหรับเก็บของขนาดเล็ก คู่กับเส้นสายไฟท้ายแบบทวิน เอลิเมนท์ แสดงตัวตนใหม่ของเชฟโรเลต
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ให้โครงสร้างที่เหนียวแน่น และน้ำหนักเบา ดีไซน์แบบทวิน ค็อกพิท โอบกระชับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตามเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต พร้อมกับเชื่อมโยงให้เกิดประสบการณ์แห่งการขับขี่ร่วมกัน
มีเรย์ ไม่มีกระจกมองหลังและกระจกมองข้าง แต่ถูกแทนที่ด้วยกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งปรับมุมมองด้วยไฟฟ้า ขณะที่การขับขี่ในเมือง กล้องด้านหน้ารถจะทำงานร่วมกับระบบจีพีเอส และจะทำงานแทนที่ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ด้วยภาพวิดีโอจริง ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง มีเรย์ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ "มิด-อิเลกทริก" (mid-electric) โดดเด่นที่สมรรถนะและความประหยัด โดยติดตั้งอยู่บริเวณใต้ที่นั่ง เยื้องมาด้านหลังของผู้ขับขี่
มีเรย์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15 กิโลวัตต์จำนวน 2 ตัว และใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาด 1.6 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งชาร์จไฟขณะเหยียบเบรก ให้อัตราเร่งที่คล่องแคล่ว และปราศจากมลพิษอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน มีเรย์ ยังสามารถเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังได้อีกด้วย
เพื่อสมรรถนะที่สูงขึ้น มีเรย์ ยังมีระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบควบคุมแรงบิดที่ล้อหลังซ้ายและล้อหลังขวาได้ตามต้องการ โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังเบาะที่นั่ง ถ่ายกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลังและทำงานคู่กับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ที่ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ตลาดรถสปอร์ตโรดสเตอร์
ระบบส่งกำลังพร้อมคลัตช์คู่ (Dual-clutch transmission - DCT) ที่มีขนาดกะทัดรัดเนื่องจากไม่มีทอร์ก คอนเวอเตอร์ ให้ช่วงเปลี่ยนเกียร์ที่สั้นและรวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุด และมีระบบการสตาร์ตและดับเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์
ที่มาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,630
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น