21 มกราคม 2553

Nissan X-trail เอสยูวีนุ่มเหมือนเดิม

Nissan X-trail เอสยูวีนุ่มเหมือนเดิม

Nissan X-trail เอสยูวีนุ่มเหมือนเดิม
เปิดตัวมาแบบเงียบๆ สำหรับ “นิสสัน เอ็กซ์เทรล” ใหม่ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วพร้อมกับการอวดโฉมในงานมหกรรมยานยนต์ กับราคาค่าตัว 1.065 ล้านบาท เรียกความสนใจจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบรถเอสยูวีพันธ์แท้ได้ไม่น้อย โดยค่าตัวที่ต่ำนั้นเป็นผลมาจากการเป็นรถนำเข้าจากประเทศอินโนนีเซีย ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีนำเข้าเหลือ 0% ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า(AFTA)

เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่คันนี้นิสสันนำเข้ามาทำตลาดด้วยรุ่นย่อยเพียงทางเลือกเดียวคือ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร (MR20DE) ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 6 สปิด ตัวเดียวกับที่ประจำการในรถนิสสัน เทียน่า แต่จะแตกต่างกันที่ เอ็กซ์เทรล มี เอ็ม โหมด(M-Mode)เพิ่มขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากขับเหมือนเกียร์ธรรมดา

ซึงเมื่อเปิดตัวแล้วก็เหมือนเป็นธรรมเนียม นิสสัน จัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ เอ็กซ์เทรล กันในเส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี โดยรถ 1 คันนั่งไป 3 คน และเรา “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รับมอบหมายให้เป็นสารถีมือแรกสำหรับการเดินทางครั้งนี้

สัมผัสแรกหลังพวงมาลัยเอ็กซ์เทรล เรารู้สึก “เหมือนเดิม” แม้ทั้งภายนอกและภายในจะได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงให้ความรู้สึกลักษณะเดียวกันกับโฉมก่อนหน้า พวงมาลัยรูปทรงใหม่ คอนโซลหน้าเพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยและมีลูกเล่นมากขึ้น เช่น ที่วางแก้วน้ำพร้อมช่องปล่อยแอร์ให้ความเย็นเข้ามาได้

สำรวจความพร้อมของตัวเอง ติดเครื่องยนต์ เข้าเกียร์ D เหยียบคันเร่ง เพื่อเดินทางจากตึกนันทวันมุ่งหน้าจุดหมายแรกร้านกาแฟริมถนนพระราม2 ช่วงจังหวัดสมุทรสาคร การตอบสนองช่วงออกตัว เอ็กซ์เทรล ทำได้สมกับพละกำลัง 136 แรงม้าที่ต้องแบกภาระน้ำหนักตัวรถเปล่า(ไม่รวมผู้ขับและผู้โดยสาร) 1,460 กิโลกรัม

แต่หากใครที่เป็นคนที่ชอบความแรงหรือการตอบสนองแบบทันใจคงจะผิดหวังกับโหมดธรรมดาเพราะจะให้ความรู้สึกว่า อีด ฉะนั้นเห็นควรต้องเลือกเป็น เอ็ม โหมด จึงจะพอให้ความรู้สึกเร้าใจเพิ่มขึ้นได้บ้าง

สำหรับการขับช่วงแรกเราขับตามนาวาราที่ขับออกนำหน้าเราไป ทัศนวิสัยดี มุมมองต่างๆ กับการขับในเมืองชัดเจน ขณะที่การเบรก ลงน้ำหนักแตะแป้นเบรกเพียงนิดรถก็หยุดแบบหัวทิ่ม พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี ไม่เบาจนเกินไป

เมื่อขึ้นทางด่วนเราพยายามขับไล่ตามนาวารา แต่ความเร็วระดับ 120-140 กม./ชม. เอ็กซ์เทรล ก็เริ่มออกอาการตื้อแล้ว และความเร็วไหลขึ้นช้ามากหลังเข็มไมล์แตะ 140 กม./ชม. แต่การเกาะถนนยังคงทำได้ดีโดยเป็นหน้าที่ของช่วงล่างหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และหลังอิสระ มัลติลิงค์ สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง

เราได้ลองเปลี่ยนมาที่เอ็ม โหมดพบว่าการตอบสนองรวดเร็วขึ้น และรอบเครื่องสูงกว่าปกติ ออกแนวขับทันใจวัยรุ่นอย่างที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นสำหรับคนชอบความเร้าใจต้องเลือกใช้โหมดนี้ ด้านเสียงรบกวนจากภายนอกเสียงลมประทะเริ่มดังที่ความเร็ว 110 กม./ชม. พิจารณาจากรูปทรงของรถที่ออกแบบมาแนวต้านลมจึงไม่แปลกใจที่เสียงลมเริ่มดัง ณ ความเร็วต่ำกว่ารถรุ่นอื่นๆ

การเกาะถนน การเข้าโค้ง ทำได้ประทับใจเราตามมาตรฐานความเป็นรถของนิสสัน และหลังจากขับมาเป็นระยะทางพอสมควรถึงคิวเปลี่ยนเป็นผู้โดยสารบ้าง เราเลือกนั่งในตำแหน่งเบาะหลังเพื่อดูว่าเป็นอย่างไร ความรู้สึกคือ เบาะหนังนั่งนุ่ม เอนได้ หลับสบาย

ซึ่งเราหลับเป็นเวลาร่วม 1 ชั่วโมง ตลอดระยะทางที่ผู้ขับจาก นสพ.กรุงเทพฯธุรกิจ เลือกขับแบบเรซซิ่ง โดยใช้เอ็ม โหมดตลอด(ทราบหลังจากตื่นแล้ว) และเมื่อสอบถามผู้ขับช่วงดังกล่าวให้ความเห็นว่า เอ็กซ์เทรล เป็นรถที่ขับดีคันหนึ่งแต่ความรู้สึกเหมือนเดิม ไม่แตกต่างจากการขับรุ่นก่อนหน้า ความเร็วสูงสุดทำได้ราว 170 กม./ชม.

ฉะนั้นหากใครซื้อ เอ็กซ์เทรล มาเพื่อหวังจะนั่งด้านหลังแล้วรับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวัง ในด้านของความนุ่ม นั่งสบาย นอกจากนั้นยังจะได้รับอรรถประโยชน์จากที่เก็บของแบบ 2 ชั้นทางด้านหลังรถ ที่ทางทีมงานนิสสัน ภูมิใจนำเสนอเป็นจุดขายของเจ้า เอ็กซ์เทรล คันนี้

ด้านอัตราการบริโภคน้ำมันคันของเราช่วงการขับราว 100 กม.สุดท้ายจากการเซ็ทใหม่ กับการขับแบบปกติไม่รีบเร่งแต่อย่างใดบนถนนย่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุตัวเลข 9.3 ลิตร/ 100 กม. หรือคิดเป็นประมาณ 10.75 กม./ลิตร ตามการแสดงผลของหน้าจอของเจ้าเอ็กซ์เทรล

ขณะที่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันกับการขับระยะทางร่วม300 กม.ก่อนหน้าอาจจะมีความผิดพลาดบางประการเพราะระบุค่าเฉลี่ยคิดออกมาแล้วเห็นตัวเลขประมาณ 6.6 กม./ลิตร กับการขับของเรารวมกับสื่อมวลชนจากกรุงเทพฯธุรกิจ ถือว่ากินน้ำมันมากผิดปกติ โดยนิสสัน เอ็กซ์เทรลเติมน้ำมันเบนซินชนิดออกเทน 91 และแกสโซฮอล์ชนิด อี10 ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อหันไปมองออฟชั่นด้านความปลอดภัย เอ็กซ์เทรล ถือว่าให้มาเพียบทั้ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ,ABS, EBD, BA และระบบป้องกันการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ ครบถ้วนตามมาตรฐานความปลอดภัยของรถในยุคนี้ รวมไปถึงกุญแจระบบ Immobilizer ช่วยป้องกันการโจรกรรม

สรุป ด้วยค่าตัว 1.065 ล้านบาท ออฟชั่นครบครัน นั่งหลังหลับสบาย น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนแนวอนุรักษ์นิยม ที่มองความคุ้มค่ากับรถเอสยูวีสายพันธ์แท้มาตรฐานนิสสัน

Nissan X-trail เอสยูวีนุ่มเหมือนเดิม

ที่มา:โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ /http://www.manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น