19 เมษายน 2553

Lamborghini Gallardo LP570-4 Superleggera : กระทิงรุ่นเล็กไขมันต่ำ

Lamborghini Gallardo LP570-4 Superleggera : กระทิงรุ่นเล็กไขมันต่ำ อีกลิมิเต็ดเอดิชันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้นิยมกระทิงทั่วโลก เพราะทันทีที่เห็นป้ายของคำว่า Superleggera แล้ว มั่นใจได้เลยว่าลัมบอร์กินีคันนั้นจะต้องพกสมรรถนะแบบไม่ธรรมดามาด้วย เพราะว่าม้า 1 ตัวในคอกจะรับหน้าที่ในการแบกน้ำหนักน้อยลงจากเวอร์ชันปกติ และส่งผลต่อเนื่องไปยังอัตราเร่งในช่วงต้นตามคอนเซ็ปต์ที่แปลตรงตัวเป็นภาษาอังกฤษว่า Super Light หรือ Light Weight

หลังจากเผยโฉมให้เห็นในงานที่เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ลัมบอร์กินีพร้อมแล้วกับการส่งเวอร์ชัน Superleggera ของสปอร์ตรุ่นเล็กกัลญาร์โด้ลงขายในตลาด โดยเป็นการพัฒนาบนพื้นฐานของเวอร์ชันตัวแรงในรหัส LP560-4

เวอร์ชัน Superleggera กับรุ่นกัลญาร์โด้มีจุดเริ่มต้นกันมาตั้งแต่ปี 2007 เพียงแต่คราวนั้นตัวรถถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของกัลญาร์โด้รุ่นปกติ และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า กวาดยอดขายไปได้ 618 คัน

ส่วนรุ่นใหม่นี้ยึดเอาเวอร์ชัน LP560-4 ที่เปิดตัวในปี 2008 มาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเพื่อลดน้ำหนัก โดยยึดเอาตัวถังคูเป้หลังคาแข็งมาเป็นแม่แบบในการพัฒนาก่อน ส่วนจะมีเวอร์ชันเปิดประทุนตามออกมาในภายหลังหรือไม่นั้น ยังไม่มีการเผยออกมาในตอนนี้

รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถได้รับการออกแบบและเพิ่มความดุดันตามสไตล์สปอร์ตเวอร์ชันพิเศษ โดยมีการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ตามจุดต่างๆ ของตัวรถเพื่อลดน้ำหนัก เช่น ฝาครอบเครื่องยนต์ที่อยู่ตรงกลาง, สปอยเลอร์หลัง, แผ่น Diffuser ตรงชายล่างของกันชนท้าย และโครงเบาะนั่ง ขณะที่กระจกบังลมหลังและกระจกหน้าต่างบนประตูผลิตจากโพลีคาร์บอเนต หรือล้อแม็กลายใหม่ขนาด 19 นิ้วก็ถูกผลิตด้วยวิธี Forged ซึ่งทำให้สามารถช่วยลดน้ำหนักต่อเซ็ต (4 วง) จากล้อแบบธรรมดาถึง 13 กิโลกรัม น็อตล้อผลิตจากไททาเนียม และจับคู่กับยางขนาด 235/35ZR19 สำหรับด้านหน้า และ 295/30ZR19 ทำให้น้ำหนักโดยรวมลดลงอีก 70 กิโลกรัมจากรุ่น LP560-4 ลงมาอยู่ที่ 1,340 กิโลกรัม ส่วนอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังอยู่ที่ 43:57%

เครื่องยนต์วี10 5,200 ซีซีแบบไดเร็กต์อินเจ็กชันเหมือนเดิม หรือที่เรียว่า Iniezione Diretta Stratificata ก็ได้รับการขยับเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นอีกนิดตามชื่อรุ่นด้วยการปรับแต่งโปรแกรมในกล่องควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ กำลังที่ได้เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 10 ตัว จาก 412 กิโลวัตต์ หรือ 560 แรงม้ามาอยู่ที่ 419 กิโลวัตต์ หรือ 570 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 55.0 กก.-ม. ที่ 6,500 รอบต่อนาที ม้า 1 ตัวแบกน้ำหนักแค่ 2.35 กิโลกรัม

ขับเคลื่อน 4 ล้อซึ่งกระจายกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อหน้า-หลังในอัตราส่วน 30-70% ซึ่งลัมบอร์กินียึดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใช้มาตลอดหลังจากเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีออดี้เป็นผู้บริหาร ยกเว้นตัวแรงรุ่น LP550-2 Valentio Balboni ที่เปลี่ยนมาเป็นแบบขับหลัง และ LP570-4 Superleggera ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะแบบคลัตช์ไฟฟ้า หรือ e-Gear อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ในระดับ 3.4 วินาที และ 10.2 วินาทีสำหรับ 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยความเร็วสูงสุดอยู่ในระดับ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ค่าตัวของความเบาที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อความเบาของกระเป๋าเงินด้วยเช่นกัน เพราะลัมบอร์กินีเคาะราคาออกมาที่ 242,695 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 8 ล้านบาท แพงกว่า LP560-4 ประมาณ 34,700 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.1 ล้านบาท บ้านเราเข้ามาก็ไม่รู้ว่าจะตั้งเอาไว้ที่เท่าไร เพราะขนาด LP560-4 ก็ซัดเข้าไปแล้ว 26.5 ล้านบาท ส่วนข่าวดีคือ รุ่นนี้ไม่มีการผลิตจำกัด ยังมีเวลาตัดสินใจกันได้

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น