25 กันยายน 2553

Nissan Murano&Dualis : ปรับโฉมตัวลุย 2 สไตล์

Nissan Murano&Dualis : ปรับโฉมตัวลุย 2 สไตล์ ใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวของนิสสันในช่วงนี้คงทราบดีถึงความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมากระตุ้นตลาด โดยเฉพาะในตลาดเอสยูวีถือว่ามีสีสันใหม่ๆ ออกมาให้ติดตามมามายจริงๆ เพราะนอกจากการปรับโฉมให้กับเอ็กซ์-เทรล และโร๊ก เอสยูวีสำหรับขายในตลาดอเมริกาเหนือแล้ว อีก 2 รุ่นที่มีการปรับโฉมเพื่อกระตุ้นตลาดคือ คลาสใหญ่อย่างมูราโน และเอสยูวีคอมแพ็กต์อย่างดูอัลลิส
มาเริ่มกันที่ดูอัลลิสกันก่อน ซึ่งเอสยูวีรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นตัวถังสำหรับรถยนต์คอมแพ็กต์ หรือ C-Car จากความร่วมมือระหว่างนิสสันกับเรโนลต์ และในยุโรป ทางนิสสันส่งเอสยูวีรุ่นนี้ขายด้วยชื่อแคชไคโดยมีเป้าหมายกินรวบทั้งตลาดเก๋งในคลาส C-Segent ตัวถังแฮทช์แบ็ก และตลาดเอสยูวี โดยนับตั้งแต่เปิดตัวออกสู่ตลาดโลกปี 2007 นิสสันกวาดยอดขายของเอสยูวีรุ่นนี้ไปแล้วมากกว่า 600,000 คันทั่วโลก
การปรับโฉมครั้งนี้อยู่ที่การเพิ่มความสดใหม่ของรูปลักษณ์ภายนอกและภายในแบบที่สามารถสัมผัสถึงความแตกต่างได้ โดยเริ่มจากการเปลี่ยนกันชนหน้า กระจังหน้า และไฟหน้า ส่วนด้านท้ายมีการปรับปรุงรายละเอียดของตำแหน่งสัญญาณไฟต่างๆ ใหม่ แต่กรอบไฟท้ายยังเป็นทรงเดิม ส่วนในห้องโดยสารมีการปรับรายละเอียดของแผงหน้าปัดใหม่ ขยายขนาดของหน้าจอดิจิตอลแสดงผลข้อมูลต่างๆ ของตัวรถ พร้อมกับอัพเกรดความหรูภายในห้องโดยสารด้วยการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งใหม่
ตอนนี้ เวอร์ชันที่เปิดตัวออกมายังเป็นรุ่น JDM สำหรับขายในญี่ปุ่น ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้ออัตโนมัติ พร้อมเครื่องยนต์รหัส MR20DE บล็อก 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี 137 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT พร้อมโหมด 6-Speed Manual หรือ CVT-M6 รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 15.0 กิโลเมตร/ลิตร และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออยู่ในระดับ 13.2 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนเวอร์ชันที่ขายในยุโรป คงต้องรออีกสักพักถึงจะทราบว่ามีอะไรให้เลือกบ้าง
ทางฟากของมูราโน มาพร้อมกับของใหม่ที่เป็น Model Year 2011 ซึ่งนิสสันเผยรายละเอียดออกมาสร้างสีสันในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป โดยถือเป็นการปรับโฉมครั้งแรกสำหรับเจนเนอเรชันที่ 2 ของมูราโนที่เปิดตัวออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2008

ความเปลี่ยนแปลงในรุ่นนี้สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่กระจังหน้าลายใหม่ ซึ่งถูกออกแบบให้รับกับกันชนหน้าทรงสปอร์ต โคมไฟหน้ายังเป็นทรงเหลี่ยมเฉียงเหมือนเดิม พร้อมไฟท้ายที่ได้รับการออกแบบรายละเอียดภายในใหม่ และหันมาใช้หลอดแบบ LED และเพิ่มความหล่ออีกระดับด้วยล้อแม็กเป็นลายใหม่มีขนาด 18 นิ้ว

2 ทางเลือกของเครื่องยนต์ยังมีให้สัมผัสเหมือนเดิม คือ วี6 ทวินแคม 24 วาล์ว ในตระกูล VQ ซึ่งมีความจุ 3,500 ซีซี มีกำลังสูงสุด 260 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 33.2 กก.-ม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องแบบ CVT ในรหัส Xtronic และมีขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเพียงอย่างเดียว หรือ 4 ล้อ และเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลในรหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบเรียง 2,500 ซีซี ที่สามารถผลิตกำลังออกมาได้ถึง 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 45.5 กก.-ม.

สำหรับเครื่องยนต์เบนซินมีขายในตลาดทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา ส่วนในยุโรปซึ่งมีความต้องการที่แตกต่าง นอกจากเครื่องยนต์เบนซินแล้ว จะมีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลขายด้วย

การทำตลาดของเอสยูวี 2 รุ่น 2 สไตล์เริ่มขึ้นแล้ว โดยดูอัลลิสเวอร์ชันที่ขายในญี่ปุ่นตั้งราคาเอาไว้ที่ 2,097,000-2,514,750 เยน หรือ 775,000-930,000 บาท ส่วนมูราโนมีราคาเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาที่ 28,340 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 878,000 บาทมากนัก

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น