26 กุมภาพันธ์ 2553

ฮอนด้าขยับแนวรุกไฮบริดรุ่นใหญ่


ฮอนด้าขยับแนวรุกไฮบริดรุ่นใหญ่
ต่อจากการรุกตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยทางเลือกอย่างรถสปอร์ตรุ่น CR-Z ที่เปิดตัวไปแล้วในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2010 และรุ่นที่ยังไม่เปิดตัวอย่างแจ๊ซ/ฟิต ไฮบริด ในตอนนี้ ฮอนด้าเผยว่ากำลังซุ่มพัฒนาระบบไฮบริดรุ่นใหม่เพื่อใช้ในรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ โดยคาดว่าจะสามารถนำออกขายได้อย่างแน่นอนไม่เกิน 3 ปีนับจากนี้

รอยเตอร์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของโทโมฮิโก คาวานาเบะ COO ของฮอนด้า อาร์แอนด์ดี ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกล่าวว่า ในตอนนี้ระบบไฮบริดที่กำลังพัฒนาอยู่นี้เดินหน้าไปเร็วมาก และก้าวพ้นจากช่วงของการวิจัยเพื่อเดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างเต็มตัวแล้ว แต่ทางคาวานาเบะปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียดของระบบไฮบริดใหม่รุ่นนี้ ซึ่งก็รวมถึงการนำไปใช้กับรถยนต์รุ่นไหน แต่ระบุว่าระบบนี้จะเสร็จสิ้นการพัฒนาและนำมาวางในรถยนต์สำหรับการใช้งานจริงได้ไม่เกิน 3 ปี

ก่อนหน้านี้รถยนต์รุ่นใหญ่สุดของฮอนด้าที่มีเวอร์ชันไฮบริดทำตลาดก็คือ แอคคอร์ด รุ่นที่แล้ว หรือเจนเนอเรชันที่ 7 และมีทำตลาดช่วงสั้นๆ ในระหว่างปี 2005-2007 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารถยนต์ไฮบริดใหม่รุ่นนี้น่าจะเป็น Dedicated Hybrid Car หรือมีขายเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริดเหมือนกับ CR-Z แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่า ฮอนด้าต้องการพัฒนาระบบไฮบริดรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อใช้กับเอสยูวีและมินิแวนที่ขายอยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างไพล็อต และโอดิสซีส์

นอกจากนั้น คาวานาเบะยังเปิดเผยอีกว่า ฮอนด้ากำลังพัฒนาเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลรุ่นใหม่ซึ่งมีขนาดเล็กสำหรับใช้ในตลาดอย่างยุโรปและอินเดียอีกด้วย โดยในปัจจุบันฮอนด้ามีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเพียงแบบเดียวคือ รหัส i-CTDi 4 สูบ 2,200 ซีซีสำหรับวางในฮอนด้า ซีอาร์-วี และแอคคอร์ดที่ขายอยู่ในยุโรป โดยคาดว่าเครื่องยนต์บล็อกเล็กใหม่นี้น่าจะถูกนำมาวางในรถยนต์ระดับซับคอมแพ็กต์อย่างรุ่นแจ๊ซ/ฟิต

ขณะที่ทางด้าน CR-Z เองก็มีข่าวว่ากำลังจะพลิกแนวคิดของเวอร์ชัน Type R ด้วยการเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่มากับเวอร์ชันตัวแรงนี้ โดยข่าวระบุว่า ฮอนด้าจะปรับปรุงระบบไฮบริดทั้งในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซีให้มีกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 20 แรงม้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้กำลังขับเคลื่อนของระบบโดยรวมขยับจาก 122 แรงม้าในรุ่นปกติมาเป็น 160-170 แรงม้า แต่ก็ไม่ไดปิดเผยว่าจะมีขายเป็นเวอร์ชัน JDM เฉพาะในญี่ปุ่น หรือขายในตลาดทั่วโลก

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000025511

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น