BT-50 ไฮเรเซอร์ ปิกอัพหรูสไตล์เก๋ง
เมื่อช่วงก่อนปีใหม่ ค่ายซูมซูม "มาสด้า" ส่งเทียบเชิญเข้ามายังกองบ.ก.ข่าวสด เพื่อให้ไปร่วมทริปทดสอบ "มาสด้า บีที-50 ใหม่" แต่ด้วยเพราะติดภารกิจสำคัญ จึงไม่สามารถไปด้วยได้ หลังจากเริ่มคลายความวุ่นจึงนึกขึ้นได้
ติดต่อเข้าไปยังผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดสาว ผู้มีนามสกุลย้าวยาว "สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี" ว่าต้องการนำรถมาทดสอบ
ได้รับคำตอบว่าให้เข้าไปรับรถในวันศุกร์เมื่อสัปดาห์ก่อนที่สำนักงานใหญ่ อาคารเลครัชดา ใกล้กับแยกอโศกตัดสุขุมวิท
ทีมงานมาสด้าจัดรถแบบขับสองยกสูง "ฟรีสไตล์แค็บ ไฮเรเซอร์" เห็นทีแรกค่อนข้างหนักใจ เพราะทั้งใหญ่ทั้งยาว แถมเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาอีกต่างหาก
ยิ่งการจราจรเย็นวันศุกร์ ย่านนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่าติดขัดสาหัสแค่ไหน แต่ทว่าการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด
ด้วยเพราะเป็นรถยกสูง ประกอบกับกระจกมองข้างขนาดใหญ่ ทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก แม้จะต้องร่วมชะตากรรมกับทั้งรถเก๋ง ปิกอัพ และจักรยานยนต์ ที่ฉวัดเฉวียนอยู่รอบๆ ตัว
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคล่องตัวลดน้อยลงเลย การเร่งแซง ปรับเปลี่ยนเลน ทำได้กระชับ จนแทบไม่คิดว่าอยู่บนรถปิกอัพคันโต
แม้ช่วงแรกอาจต้องปรับตัวกับเรื่องคลัตช์ที่ไวมาก ส่วนคันเร่งที่กดนิดกดหน่อยตัวรถจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ขนาดที่ว่าถ้าเลี้ยงคลัตช์ไม่ดี มีดับเอาดื้อๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นวางแผนที่จะไปจ.จันทบุรี ออกเดินทางช่วงสาย เลือกเส้นมอเตอร์เวย์ เพราะคิดว่าน่าจะพอมีพื้นที่ให้ทำความเร็วได้เป็นช่วงๆ
เครื่องยนต์มาสด้า บีที-50 ขนาด 2.5 ลิตร คอมมอนเรล เทอร์โบ ให้กำลังค่อนข้างมาก แค่กดคันเร่งเบาๆ ไล่ความเร็วไปเรื่อยๆ อึดใจเดียว ทะลุ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบบสบายๆ
อัตราเร่งเรียกมาใช้งานได้รวดเร็ว แม้จะถอนคันเร่งไปพักใหญ่แล้วก็ตาม แบบไม่ต้องเชนจ์เกียร์ให้เมื่อยมือ
ช่วงล่าง มาสด้า บีที-50 บึกบึนตามแบบฉบับรถปิกอัพ เวลาเจอคอสะพาน หรือเนินลูกระนาด อาจต้องผ่อนคันเร่งสักหน่อย เพราะขืนมาแรงอาการกระเด้งกระดอนมาให้เห็นอย่างแน่นอน
แต่เวลาเข้าโค้ง หรือโยกแซงบนความเร็วสูงๆ แสดงให้เห็นถึงความหนึบแน่น ประกอบกับพวงมาลัยที่แม่นยำ ทำให้ควบคุมรถได้อย่างสบาย
รูปลักษณ์ภายในมาสด้า บีที-50 เลือกใช้โทนสีเบจ และเทาเข้ม ให้อารมณ์ไม่ต่างจากรถเก๋ง พวงมาลัย 3 ก้านจับกระชับมือ เบาะผ้าลายใหม่ โดยเฉพาะบริเวณตรงกลาง ที่เป็นผ้าทอยกตารางหมากรุกจากเส้นไหมที่ให้ความมันวาวเพิ่มความมีชีวิตชีวาได้อีกมาก
ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเป็นสีส้มอำพันสไตล์สปอร์ต ซึ่งทางมาสด้าแจ้งไว้ว่าเหมือนกับรถเก๋งของมาสด้ารุ่นอื่นๆ ทั้งบริเวณ มาตรวัด แผงควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง อีกทั้งยังติดตั้งไฟส่องสว่างใต้คอนโซล เพิ่มประโยชน์ใช้สอยและดูสปอร์ตในเวลาเดียวกัน
ภายนอกแม้มองผาดๆ แล้วอาจจะบอกว่าไม่ต่าง แต่เมื่อลงรายละเอียด พบว่ามาสด้าบีที-50 ปรับเปลี่ยนหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าใหม่ เน้นให้เห็นรูปทรง 5 เหลี่ยมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มจุดกึ่งกลางของแนวเส้นด้านล่างของกระจังหน้า
เพิ่มความพิเศษด้วยการเพิ่มโครเมียมให้กับแนวเส้นที่ 3 เพื่อความโดดเด่นชัดเจน เส้นกลางโลโก้ถูกออกแบบใหม่มีขนาดบางลงเพื่อความสมดุลและดูแข็งแกร่งขึ้น
กันชนหน้าออกแบบใหม่ขึ้นรูปชิ้นเดียวสวยงามขนาดใหญ่ออกแบบรับกับกระจังหน้าและไฟหน้า แสดงให้เห็นเส้นแนวตั้งคู่เป็นแนวต่อเนื่องมาจากฝากระโปงหน้า กระจังหน้า และกันชนอย่างลงตัว ดูกลมกลืนเป็นลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
ชุดไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมชุดไฟเลี้ยวดีไซน์แบบรูกุญแจฝังไว้ในชุดเดียวกัน ใช้วัสดุชั้นดีสีเงินโครเมียม เพิ่มมุมมองและการกระจายแสงของไฟเลี้ยวที่ดีขึ้น
ใครที่ชอบเท่แต่ไม่อยากลุย ลองแวะไปที่โชว์รูมมาสด้าเพื่อทดลองขับมาสด้า บีที-50 ดูสักครั้ง
จะได้รู้ว่าความแรงของเครื่องยนต์ ผสานกับความหนึบ ดิบ ของช่วงล่าง ให้อารมณ์เป็นอย่างไร
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง ปิกอัพ 2 ประตู
เครื่องยนต์ คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
ความจุ 2499 ซีซี
กำลังสูงสุด 143 แรงม้า/3,500 รอบฯ
แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร/1,800 รอบฯ
ระบบรองรับ(หน้า) อิสระปีกนกคู่/เหล็กกันโคลง ทอร์ชั่นบาร์สปริง
ระบบรองรับ(หลัง) แหนบแผ่นซ้อน/เหล็กกันโคลงทอร์ชั่นบาร์
โช้กอัพแบบ 2 จังหวะ ไขว้ทแยงมุม
มิติ(กว้าง x ยาว x สูง) 1,807 x 5,169 x 1,750 ม.ม.
ราคา 609,000-720,000 บาท
ที่มา ข่าวสด
หน้า 26
คอลัมน์ ทดสอบ
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROallYSXdNVEEzTURJMU13PT0=§ionid=TURNeU9RPT0=&day=TWpBeE1DMHdNaTB3Tnc9PQ==
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น