สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนที่ตั้งตารอมาสด้า 2 ใหม่ ดูๆ แล้วมาสด้า เซลส์ ประเทศไทยเองก็พอใจกับผลงานการสร้างสรรค์ชิ้นนี้ ด้วยยอดจองถึง 2,047 คันหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพียง 1 สัปดาห์
กระแสเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้มาาสด้า 2 กลายเป็นรถยนต์เซ็กเมนท์ซับคอมแพ็กต์ ที่มีผู้คนพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ ไม่มีใครไม่รู้จักมาสด้า 2 อย่างตอนที่ผมเดินทางไปทดสอบรถรุ่นนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างการเดินทาง ต้องเจอกับด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกือบทุกๆ ด่านที่ผ่าน ผมแจ้งเพียงว่า กำลังเดินทางไปทดสอบรถยนต์มาสด้า ที่เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เขาก็เดาออกทันทีว่า มันคือมาสด้า 2 แน่นอน
มาสด้า 2 แฮชแบค มันถูกส่งมาประกบกับรถกลุ่มซับคอมแพ็กต์ยอดฮิตอย่าง ฮอนด้าแจ๊ส และโตโยต้า ยาริส จุดเด่นของมันอยู่ที่รูปทรงหน้าตาแลดูสปอร์ตปราดเปรียวกว่า แม้มันจะเป็นคู่แข่งกันแต่ส่วนตัวยังเห็นว่า มาสด้า 2 น่าจะเป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะเซ็กเมนท์ซับคอมแพ็กต์ขยายตัวมากยิ่งขึ้น
ด้านสมรรถนะนั้น เครื่องยนต์ MZR DOCH 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1498 ซีซี. 103 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ใช้ระบบวาล์วแปรผัน S-VT และระบบวาล์วควบคุมการไหลเวียนของไอดี TSCV กำลังพอเหมาะพอดีกับรูปร่างและขนาดของมัน บางคนอาจมองในมิติเดียวที่ตัวเลขแรงม้า ซึ่งน้อยกว่าฮอนด้าและโตโยต้า แต่อย่าฃืมครับว่า เจ้านี้ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ ช่วยลดน้ำหนักตัวรถร่ามๆ 100 กิโลกรัม ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 1,043 กิโลกรัม พูดภาษาชาวบ้านคือมันไม่ต้องแบกน้ำหนักตัวเยอะ เมื่อเทียบแรงม้าต่อกิโลกรัมออกมาแล้ว
สำหรับเส้นทางทดสอบมาสด้า 2 ครั้งนี้ เริ่มต้นย่านใจกลางเมืองเชียงใหม่ ไม่ไกลจากตลาดไนท์บาซา ช่วงแรกๆ เป็นการขับไปๆ มาๆ ในเมือง การจราจรแครครั่งไปด้วยรถยนต์และจักรยานยนต์ ทำให้ได้สัมผัสกับอัตราเร่งและความคล่องตัว เรามุดเข้าซอยโน้น ออกซอยนี้กันอย่างสนุกสนาน
พอเริ่มขับออกนอกตัวเมือง ผมเริ่มใช้ความเร็วได้เพิ่มขึ้น จาก 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ขยับได้ 70-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วที่เราใช้กันตามกฎหมายกำหนด สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความเงียบของห้องโดยสาร มาสด้าใช้วัสดุเก็บเสียงค่อนข้างดี มีเสียงลมปะทะเพียงเล็กน้อย บรรยากาศรวมๆ ภายใน เมื่อรวมกับเสียงเพลงจากเครื่องเสียงที่สามารถเล่น CD และMP3 พร้อม ช่องAUX สำหรับพ่วงต่อ iPod และสามารถควบคุมได้จากปุ่มที่พวงมาลัยโอเคมาก ผมขับในสไตล์ ชิล ชิล และมาสด้า 2 ก็ตอบสนองได้ดี
ที่ความเร็วสูงขึ้นเกิน 100 กิโลเมตรตั่อชั่วโมง มาสด้า2 ยังให้ความรู้ที่มั่นคง อัตราเร่งเครื่องยนต์นังเรียกมาได้ต่อเนื่อง ที่ดูจะเด่นชัดคือ ช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครงและทอร์ชั่นบีม พร้อมเทลลิ่งอาร์ม หลายๆ โค้งมันแสดงศักยภาพให้เห็นถึงความหนึบ บางโค้งเพียงแค่ยกเท้าจากคันเร่ง ไม่ต้องแตะเบรก การหมุนพวงมาลัยอย่างนุ่มนวลก็ช่วยให้ผมควบคุมมันอยู่ในเลนแบบไม่ลุ้น
แถมยังมีโหมดโอเวอร์ไดรฟ์ เพื่อให้ได้รอบเครื่องยนต์สูงขึ้น เป็นการเติมความเร้าใจของการขับเจ้านี้ได้มากขึ้น ขณะเดียวกันโหมดนี้ก็ยังใช้เป็นเอนจิ้นเบรก ลดความเร็วยามคับขัน และเพิ่มความมั่นใจในบางโค้งได้ด้วย
โดยเฉพาะช่วงถนนเลียบคลองชลประทาน ใครไม่เคยไปผมอยากให้นึกถึงงูเลิ้อย มันโค้งได้ใจอย่างนั้นเลย ขณะที่ความเร็วที่ผมใช้มันก็ไม่น้อยเลย แต่เพราะผมมั่นใจว่าเจ้านี้เอาอยู่
แม้จะเป็นซับคอมแพ็กต์เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มันก็พาผมออกนอกเชียงใหม่ ไปต่างอำเภอ ท่องเที่ยวตามอุทยานฯ ขึ้นเขา ลงห้วยได้อย่างสบายๆ และถึงมาสด้าฯ จะยังไม่เคยวัดเรื่องตัวเลขประหยัดน้ำมัน แต่ผมว่าไม่ต่างจากรถในกลุ่มเดียวกัน เรพาะวิ่งทดสอบกันเกือบทั้งวันไป-กลับ ราวๆ 200 กิโลเมตร เข็มน้ำมันกระดิกลงนิดหน่อย
สุดท้ายมาจบด้วยเรื่องราคา เริ่มต้นด้วยรุ่นเกียร์ธรรมดา Groove Sports M/T 570,000 บาท รุ่นท้อปสุดก็ MAXX Sports A/T 690,000 บาท สำหรับใครที่เทใจให้เจ้ามาสด้า 2 ไปแล้วก็ขอให้สนุกให้เต็มที่ครับ สไตล์ Zoom Zoom
โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9520000151196
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น