Nissan New TIida หน้าใหม่ใจกว้าง นิสสัน นิว ทีด้า จุฑามาศ ไชยวรรณ
กว่าจะพลิกสถานการณ์ปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของเจ้านิสสันทีด้าจนเข้าที่ได้ ก็ทำเอามือการตลาดค่ายนิสสัน เหนื่อยไปตามๆ กัน จนไม่นานมากนี้ทีด้าก็ได้เวลาต้องปรับเปลี่ยนในแบบไมเนอร์เชนจ์อีกครั้ง คราวนี้มีการแต่งหน้าทาปาก เพิ่มความสดใส เพื่อแข่งกับรถยนต์ในกลุ่มบีเซ็กเมนท์ที่ถล่มกันค่อนข้างรุนแรง
หน้าตาและรูปลักษณ์ของนิว ทีด้าทีด้า แบบแฮทช์แบ็ก หรือ 5 ประตู และ ทีด้า ลาติโอ มีการเปลี่ยนแปลงกระจังหน้าให้ดูหล่อเหลาขึ้น รวมไปถึงดวงไฟหน้าใหม่ที่ให้อารมณ์สปอร์ต ส่วนด้านหลัง หรือบั้นท้ายของทีด้าทั้ง 2 รุ่นนั้นในส่วนของนิว ทีด้า มีการใส่ไฟท้ายใหม่เป็นแบบดวงกลม ที่มองแล้วให้อารมณ์แปลกๆสรุปว่าสำหรับเรามันไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก ถ้าเทียบกับของเดิม ขณะที่เจ้า ทีด้า ลาติโอนั้น ด้านหลังยังคงเป็นแบบเดิมไม่ได้ปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด
ภายในนั้นเมื่อไล่เรียงสายตาแล้ว สิ่งที่มาใหม่คือ กุญแจ โดยในรุ่นนี้เป็นแบบ Intelligent Key ที่ช่วยให้การเปิด-ปิด, ล็อคประตู และสตาร์ทรถโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบป้องกันการขโมย Immobillizer เรื่อยมาถึงคอนโซลหน้า แผงหน้าปัดมีจอแสดงอัตราการใช้น้ำมันโดยเฉลี่ย ส่วนแผงควบคุมตรงกลางมีทั้งปุ่มระบบปรับอากาศที่สามารถปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบเครื่องเสียงที่รองรับทั้ง วิทยุ,ซีดี,เอ็มพี3 และช่องต่อพ่วงไอพ็อด สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ปุ่มคอนโทรลระบบออดิโอ ที่พวงมาลัย ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยผู้ขับขี่ให้สะดวกสบายมากขึ้น
ส่วนความกว้างของห้องโดยสาร แน่นอนว่าย่อมมีความแตกต่างกันระหว่างแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก ซึ่งนิสสันที่พยายามจะชูจุดขายของรถรุ่นนี้ว่ากว้าง สะดวกสบายเหนือรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆก็จะชูในรุ่นแฮทช์แบ็ก สามารถเก็บสัมภาระได้มาก เพราะนอกจากจะเก็บของด้านท้ายรถแล้ว ยังสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้อีก อย่างไรก็ดีในส่วนของซีดานนั้น เมื่อมองจากสายตาค่อนข้างที่จะดูเล็ก แต่เมื่อลองเข้าไปนั่งด้านหลัง ก็พบว่าอารมณ์ไม่ได้แตกต่างจากแฮทช์แบ็กเท่าไรนัก ถือได้ว่ายังคงความสะดวกสบายอยู่
เรามีโอกาสได้ทดสอบนิวทีด้า ร่วมกับทีมประชาสัมพันธ์ นิสสัน ออโตโมบิล ประเทศไทย จากโชว์รูมนิสสัน ย่านเกษตร-นวมินทร์ โดยมีปลายทางกันที่โรงแรมกรีนเนอรี่ เขาใหญ่ เครื่องยนต์แบบเดิมคือ 1800 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 126 กิโลวัตต์ ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC พาเราลุยตั้งแต่สภาพถนนที่จอแจในเมืองกรุงฯ ก่อนจะได้อัดความแรงกันอย่างเต็มที่เมื่อออกจากเขตเมืองมุ่งสู่เขาใหญ่ โดยสมรรถนะที่รีดออกมาถือว่าไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เรียกได้ว่าทำได้ดีสมตัว ส่วนอารมณ์การขับขี่ในวันนั้นก็เรียกความมั่นใจได้ เพราะเมื่อต้องไต่ไปในสภาพถนนที่เป็นเขา หรือเข้าโค้ง ด้วยความที่มีความมั่นใจในการระบบช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม ที่มีการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมารองรับอย่าง Rebound Spring ที่ทำให้การยุบตัวและคืนตัวที่หนืดขึ้นของโช้คอัพ ทำให้ลดการโคลงเมื่อขับขี่บนทางโค้ง
อย่างไรก็ดีแม้สมรรถนะจะทันใจ และสร้างความมั่นใจในการขับขี่ แต่การเดินทางในวันนี้มีจุดสะดุดนั่นก็คือความแข็งกระด้าง ไม่แน่ใจว่าเป็นผลมาจากช่วงล่าง หรือจะเป็นการเติมลมยางที่มากเกินไป ซึ่งไม่ว่าจะมาจากสาเหตุอะไรแต่ก็ทำเอาการขับขี่ในวันนั้นไม่ค่อยจะสะดวกสบายเท่าไร
สรุปว่าการเดินทางในวันนี้ หากให้คะแนนก็ต้องบอกว่านิว ทีด้า ที่แต่งหน้าทาปากมาใหม่นี้ได้รับคะแนนความชอบอยู่ในระดับกลางๆไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม-สมรรถนะ อย่างไรก็ตามในแง่ของพื้นที่ใช้สอย หรือความกว้างของพื้นที่ในการจัดเก็บทั้งด้านหลัง หรือเบาะที่พับเก็บได้ ส่วนนี้ยังคงเป็นจุดเด่นที่นิว ทีด้า แบบแฮทช์แบ็กจะได้รับคะแนนความชอบไปแบบเต็มๆ
เอาเป็นว่าลูกค้าที่ชื่นชอบก็ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองก่อนที่โชว์รูมนิสสัน ทั่วประเทศ หรือใครที่ตัดสินใจจะเป็นเจ้าของแล้วก็เตรียมเงินในกระเป๋าได้เลย สนนราคานิว ทีด้า ในรุ่น ทีด้า ลาติโอ แบบซีดาน เริ่มตั้งแต่ 564,000 – 737,000 บาท และ 799,000 บาท และนิว ทีด้า แบบแฮทช์แบ็ก หรือ 5 ประตู ราคาตั้งแต่ 688,000 -799,000 บาท
ที่มา โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์/http://www.manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น