18 กันยายน 2554

New Audi Urban Concept : สวยเร้าใจล้ำอนาคต

New Audi Urban Concept : สวยเร้าใจล้ำอนาคต ขณะที่โฟล์คสวาเกนหนึ่งในเครือเดมเลอร์ เอจี นำเสนอแนวคิดของรถยนต์ที่นั่งเดี่ยวขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสำหรับคนเมืองยุคหน้า
สำหรับจัดแสดงในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ หรือ IAA 2011 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 15-25 กันยายน 2554 ส่วนทางออดี้เองที่เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน และมีแนวคิดเดียวกันในการพัฒนารถยนต์ยุคหน้า สำหรับลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ก็นำเสนออีกแนวคิดที่แตกต่างตามคอนเซปต์ของแบรนด์ ด้วยยานยนต์ในสไตล์ที่เรียกว่า 1+1 ที่นั่ง เน้นความสวยและเร้าใจ

ต้นแบบรุ่นนี้มีชื่อว่า Urban Concept และมาด้วยกัน 2 แบบคือ ตัวถังหลังคาแข็งที่เรียกว่า Sportback และอีกรุ่นเป็นแบบเปิดประทุนหรือ Spyder โดยตัวถังได้รับการพัฒนาและออกแบบอิงอยู่บนพื้นฐานแนวคิดในการนำเสนอรูปแบบใหม่ในการขับเคลื่อนที่ให้ทั้งความคล่องตัว ความสะดวกในการใช้งาน โดยที่ไม่ลืมแนวคิดของความสนุกสนานในการขับขี่ด้วย
Urban Concept เป็นโปรเจกต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาต่างหาก และไม่ข้องเกี่ยวกับการพัฒนารถยนต์รุ่นใดๆ ของออดี้ มากับตัวถังที่เน้นความปราดเปรียว ล้อเป็นแบบเกือบล้อเปิด ดูแล้วคล้ายกับรถยนต์อย่างพลีมัธ พราวเลอร์ที่เคยผลิตขายจริงในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 โครงสร้างตัวถังเน้นน้ำหนักที่เบาและออดี้เลือกใช้วัสดุอย่างอะลูมิเนียมในการผลิต ซึ่งเป็นวัสดุที่ออดี้มีความเชี่ยวชาญและนำมาใช้กับรถยนต์หลายรุ่นโดยเฉพาะพวกไฮเอนด์ ส่วนระบบช่วงล่างเป็นการใช้ปีกนก 2 ชั้นและโช้กอัพวางนอนแบบ Push Rod เหมือนกับรถแข่ง F1
ภายในห้องโดยสารมากับเบาะนั่ง 2 ตำแหน่ง ถูกจัดวางโดยเน้นความสปอร์ตเพราะตำแหน่งจะอยู่ต่ำ โครงสร้างของเบาะผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และผู้ขับสามารถเลือกปรับตำแหน่งพวงมาลัยและ Paddle สำหรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมกับสรีระได้อย่างสะดวก ขณะที่เบาะนั่งไม่ถึงกับจัดวางในแบบเรียงเดียว แต่ก็ไม่ใช่เรียงในระนาบเดียวกัน โดยเบาะคนขับจะอยู่ในตำแหน่งที่ล้ำขึ้นไปข้างหน้า ส่วนเบาะอีกตัววางข้างกัน แต่ทว่าจะนั่งถอยไปทางด้านหลังเล็กน้อย
หน้าที่ของการขับเคลื่อนเป็นชุดมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ e-Tron 2 ตัว และมีแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน รับหน้าที่ในการเก็บกระแสไฟฟ้า โดยที่ออดี้ไม่ได้บอกถึงรายละเอียดทางเทคนิคของตัวระบบดังกล่าว

สำหรับต้นแบบคันนี้ดูโดยรวมแล้ว น่าจะเป็นผลผลิตสำหรับเอาไว้จัดแสดงเป็นหลัก และทางออดี้เองก็ไม่ได้ยืนยันถึงโอกาสของการขึ้นสายการผลิตแต่อย่างใด
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น