07 สิงหาคม 2554

BMW M5 ใหม่ พลังแห่งผู้นำ ดุดันขั้นเทพ

บีเอ็มดับเบิลยู เผยโฉม BMW M5 เจนเนอเรชั่นที่ 5 สุดยอดรถสปอร์ตซาลูนผู้บริหารสมรรถนะสูงที่ประสบความสำเร็จที่สุด โดย BMW M5 รุ่นใหม่นี้ได้สานต่อตำนานที่ BMW M5 เจนเนอเรชั่นแรกได้ริเริ่มขึ้นเมื่อกว่า 25 ปีมาแล้ว โดยในปี 1984 BMW M5
เป็นรถยนต์ซาลูนคันแรกที่ได้เปิดโลกใหม่ให้กับวงการรถยนต์ซาลูน โดยการที่มีสมรรถนะเทียบเทียมกับรถแข่ง แต่ยังคงสามารถใช้งานประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย BMW M5 จึงได้กลายเป็นตำนานสุดยอดสปอร์ตซาลูนสมรรถนะสูง ที่ผสมผสานสมรรถนะระดับรถแข่งและความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว

สุดยอดเครื่องยนต์ V8 สมรรถนะสูงจาก BMW M
เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี M TwinPower Turbo และระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONICพละกำลังมหาศาล 560 แรงม้า อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นก่อนถึง 30%

BMW M ซึ่งเป็นบริษัทเชี่ยวชาญพิเศษของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในการสร้างและผลิตรถแข่ง ได้ถ่ายทอดสุดยอดแห่งนวัตกรรมเครื่องยนต์ แชสซี และช่วงล่าง ให้กับ BMW M5 ใหม่ อีกทั้งยังได้ผสมผสานและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี EfficientDynamics ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างสรรค์ให้ BMW M5 รุ่นใหม่นี้ ไม่เพียงแต่เป็นสุดยอดในด้านสมรรถนะ แต่ยังเหนือชั้นในด้านประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BMW M5 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ V8 สมรรถนะสูง ความจุ 4.4 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ซึ่งผสมผสานระบบ Twin-Scroll Twin Turbo เข้ากับระบบไอเสีย Cross-bank Manifold และระบบ HPI High Precision Injection ฉีดน้ำมันตรงเข้ากระบอกสูงในตำแหน่งจั่วของห้องเผาไหม้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพการจุดระเบิดดีที่สุด เครื่องยนต์ M Power ของ BMW M5 ใหม่สามารถสร้างพละกำลังมหาศาลถึง 560 แรงม้า ในช่วงรอบ 6,000-7,000 รอบ (+10% จากรุ่นก่อนหน้า) ทำให้ BMW M5 ใหม่ มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าเพียง 3.3 กิโลกรัมต่อแรงม้า นอกจากนั้น มันสามารถสร้างแรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร (+30% จากรุ่นก่อนหน้า) ที่ 1,500-5,750 รอบ สร้างพลังขับเคลื่อนอย่างมหาศาลให้กับสุดยอดสปอร์ตซาลูน ที่สำคัญ BMW M5 ใหม่ มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 10.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราเฉลี่ยการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 232 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลีย EU Cycle) หรือลดลงจากรุ่นก่อนหน้าถึงกว่า 30%

วิศวกรของ BMW M เลือกใช้ระบบเกียร์ M DCT Double-Clutch Transmission 7 สปีด พร้อมกับระบบ M Drivelogic ในการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อขับเคลื่อนด้านหลังทั้งสอง โดยระบบเกียร์ M Double-Clutch 7 สปีดนี้มีความโดดเด่นในด้านความรวดเร็วและแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ เพื่อสมรรถนะสูงสุดในการขับเคลื่อนและประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้น นอกจากนั้นระบบเกียร์ของ BMW M5 ใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Auto Start-Stop ที่ดับเครื่องยนต์เวลาที่รถจอดหยุดนิ่ง เช่น ขณะติดไฟแดง โดยอัตโนมัติ (แต่ระบบปรับอากาศยังทำงานอยู่) และติดเครื่องกลับขึ้นมาเพียงปล่อยเท้าเบรกเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงานและลดการคายไอเสียโดยไม่จำเป็นขณะรถจอดนิ่ง
กำลังมหาศาลถึง 560 แรงม้าที่ผลิตจากเครื่องยนต์ BMW M ประสิทธิภาพสูงนี้ ถูกส่งผ่านอย่างกระฉับกระเฉงด้วยระบบเกียร์ M DCT Double-Clutch Transmission 7 สปีด สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที และอัตราเร่ง 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 13.0 วินาที ความเร็วสูงสุดของ BMW M5 ใหม่ ถูกจำกัดด้วยระบบอิเลคทรอนิคที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (สามารถเพิ่มอ๊อปชั่นปลดล็อคระบบจำกัดความเร็ว ทำให้ BMW M5 ใหม่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

นวัตกรรม Active M Differential
เกาะถนนในทุกสภาวะการขับขี่

คาร์แรกเตอร์ที่โดดเด่นของ BMW M5 คือ สมรรถนะระดับรถแข่ง แต่คงไว้ซึ่งความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน วิศวกรของ BMW M ได้ถ่ายทอดคาร์แรกเตอร์ดังกล่าวจากรุ่นสู่รุ่น ใน BMW M5 เจนเนอเรชั่นที่ 5 นี้ ก็ยังคงไว้ซึ่งคาร์แรกเตอร์ดังกล่าว แต่ถูกพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นอีก โดยวิศวกรของ BMW M ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้และประสบการณ์จากการแข่งมอเตอร์สปอร์ต รวมถึงการทดสอบรอบแล้วรอบเล่าในสนามเนอร์เบิร์กริง เพื่อสร้างสรรค์ความพิเศษให้กับสมรรถนะการเกาะถนนของ BMW M5 ใหม่ ที่นอกจากจะเหนือชั้นด้วยแชสซีที่สมดุลแล้ว ยังมีเทคโนโลยีระบบช่วยล่างที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ, ระบบเพลาขับ และระบบเบรกสมรรถนะสูงน้ำหนักเบา พร้อมทั้งยังมีนวัตกรรม Active M Differential เพื่อสร้างสมรรถนะการถ่ายทอดกำลังสู่ล้อขับเคลื่อนและเสถียรภาพสูงสุดในการเกาะถนนโดยเฉพาะในทางโค้ง

ระบบ Active M Differential ทำงานผ่านการควบคุมการล็อคของคลัทช์แบบ Multi-plate ภายในระบบดิฟเฟอร์เรนเชี่ยลที่แม่นยำและรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถลของล้อในสภาวะถนนลื่นหรือในขณะเข้าโค้งที่ล้อด้านในจะหมุนด้วยความเร็วต่างจากล้อด้านนอกโค้ง โดยจะถ่ายทอดกำลังไปสู่ล้อที่มีแทร็กชั่นหรือประสิทธิภาพการเกาะถนนสูงกว่า ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการเข้าโค้งแล้ว ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ในสภาพถนนลื่นด้วย
เอกลักษณ์แห่งดีไซน์ของตระกูล M
สง่าขรึมแฝงความดุดัน
ซีรี่ย์ 5 ที่เป็นซาลูนระดับผู้บริหาร เน้นความสง่างาม แฝงความสปอร์ต โดยนักออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยูได้ทำงานร่วมกับวิศวกรของ BMW M เพื่อเสริมสร้างคาร์แรกเตอร์ของรถตระกูล M และสะท้อนความเป็นตัวตนของสายพันธุ์ BMW M5 อีกทั้งยังเพิ่มคุณสมบัติ โดยเฉพาะในด้านแอร์โร่ไดนามิกส์และการระบายความร้อน เพื่อให้รับกับสมรรถนะระดับสุดยอดของสปอร์ตซาลูนคันนี้ได้อย่างลงตัว

BMW M5 ใหม่มาพร้อมกับช่องดักอากาศขนาดใหญ่ในกันชนหน้าและพื้นผิวแบบสามมิติ ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติในการเพิ่มการระบายอากาศให้กับเครื่องยนต์และระบบเบรกแล้ว ยังให้อารมณ์ที่แฝงไว้ซึ่งความดุดัน ขับเน้นเพิ่มดีกรีความสปอร์ต แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสมดุลระหว่างความสง่างามและความสปอร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม นักออกแบบได้เน้นถึงความต่อเนื่องของลายเส้นและพื้นผิวโค้งเว้าของกันชนหน้า ให้สอดรับกับลายเส้นและพื้นผิวของส่วนของฝากระโปรงหน้าได้อย่างกลมกลืน

มุมมองด้านข้างของ BMW M5 โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว อีกทั้งยังเสริมความน่าเกรงขามด้วยช่องลมด้านข้างที่มีสัญลักษณ์ M และไฟเลี้ยวถูกออกแบบเป็นลักษณะเส้นเรียวอยู่กึ่งกลางของช่องดักอากาศ สร้างความโดดเด่นสะดุดตาในทุกมุมมอง ในขณะที่มุมมองด้านหลังเน้นความเรียบหรูในแบบฉบับซาลูนผู้บริหาร โดยติดตั้งเพียงสปอยเลอร์ขนาดเรียวเล็กบนฝากระโปรงหลัง และสเกิร์ตใต้กันชนหลังที่ซ่อนดิฟฟิวเซอร์ไว้ในตัว ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มสมรรถนะด้านแอร์โร่ไดนามิกส์ให้กับ BMW M5 ใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเพียงท่อไอเสียคู่ทั้งสองข้างของกันชนที่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของ BMW M5 ใหม่ ให้กับผู้ที่ขับรถตามอยู่ด้านหลัง
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

1 ความคิดเห็น:

  1. สุดยอดพลังที่ต้องการกำลังรอคอยเลยจ้า

    ตอบลบ