



กำลังเครื่องยนต์: 99/5,200 PS/rpm
แรงบิด: 142/2,800 - 4,400 Nm/rpm
เลกซัสได้พัฒนาหน่วยควบคุมกำลังไฟฟ้าขึ้นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังส่งสูงที่สามารถแปลงกระแสไฟกำลังสูงจากหน่วยควบคุมกำลังไฟฟ้าไปเป็นพลังขับเคลื่อนรถยนต์ ระบบดังกล่าวให้สมรรถนะในการเร่งที่เงียบและทรงพลัง ทั้งในขณะออกตัวและให้การตอบสนองที่ดีเลิศแม้ในขณะเร่งเครื่องยนต์ด้วยความเร็วในแบบที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากใช้ระบบเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียว
ประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง
แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 650V
กำลังสูงสุด 60 kw
แรงบิดสูงสุด 207 Nm
แรงม้าสูงสุด (ทั้งระบบ) 134 hp / 136 PS
อัตราเร่ง 0-100 km/h: 10.3 sec

พร้อมคุณลักษณะพิเศษ ของระบบ ไฮบริด ด้วย 2 รูปแบบ 2 อารมณ์การขับขี่ (2 moods 2 modes) ไม่ว่าจะเป็นแบบสบายๆในโหมด Normal, Eco และ EV โดยที่ไฟส่องสว่างหน้าปัทม์จะแสดงเป็นสีฟ้า และการขับขี่แบบสนุกสนานในโหมด Sport โดยที่ไฟส่องสว่างหน้าปัทม์จะเปลี่ยนเป็นสีแดง รวมถึงการตอบสนองของระบบต่างๆ อาทิ VSC TRC ABS รวมถึง น้ำหนักพวงมาลัย เพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต และความสนุกสนานเร้าใจ
ด้วยเทคโนโลยีของ Lexus Hybrid Drive, CT200h จึงปล่อยค่าไอเสียออกสู่บรรยากาศต่ำตามมาตรฐาน Euro Step V ด้วยอัตราเฉลี่ยของ CO2 เพียง 94 กรัม/กม. และนอกจากนี้ยังมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์นั่งระดับเดียวกัน โดยมีอัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ย ที่ 24.4 กม/ลิตร
ในส่วนของการออกแบบภายนอก สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้ปรัชญา “L-finesse” ผ่านเส้นสายของตัวถังที่ลื่น ไหลไปตามหลักอากาสพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทานต่ำ (Cd) เพียง 0.29 อีกทั้ง รูปทรงของโป่งล้อที่กว้างเพื่อรองรับกับซุ้มล้อ ทำให้รถดูต่ำแนบพื้น พร้อมฝากระโปรงหน้า และประตูท้ายทำจากอลูมิเนียม ทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วง (CG) ที่ต่ำ รับกับหลังคาที่เทลาด ให้ อารมณ์สปอร์ตรวมถึงการทรงตัวที่ดี
-กระจังหน้ารูปลักษณ์ใหม่ แบบ ‘spindle-shaped’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก รูปแบบของลมที่ปะทะตัวรถในระหว่างที่รถวิ่ง สอดรับกับแนวเส้นสายของตัวถัง
-กระจกด้านหลังมีเส้นสายดีไซน์แบบ ‘Slingshot’
-ไฟหน้าแบบ LED ใหม่ พร้อมไฟ Daytime Running Lights และ ไฟหรี่แบบ LED รูปทรง L- shape
-ไฟท้ายและไฟเบรกใหม่ แบบ LED ให้การส่องสว่างที่ชัดเจนในยามค่ำคืน ให้การตอบสนองที่ ฉับ ไว โดยใช้พลังงานที่ต่ำ พร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ในส่วนของการออกแบบภายใน ด้วยการคำนึงถึงอรรถประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกสบาย ภายใต้หลักการ HMI (Human-Machine Interface) โดยการแบ่งโซนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการควบคุม และ การแสดงผล ด้วยการออกแบบดังกล่าว ทำให้ผู้ขับขี่ ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง ทำให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
“เลกซัส CT200h” ยังมากับ ออปชัน ระบบนำทางจากเลกซัส (Lexus Navigation System) ทำงานโดยแสดงแผนที่แบบ DVD และบอกเส้นทางด้วยระบบเสียง เพื่อการนำทางที่ถูกต้องและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถค้นหาเส้นทางและซูมตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นรายแรกในประเทศไทยสำหรับยนตรกรรมหรูทื่แสดงข้อมูลการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครแบบ Real-time โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อการวางแผนการเดินทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ราคาเลกซัส CT200h
รุ่น ราคา (บาท)
Luxury 2,190,000
F-sport 2,390,000
Premium (ระบบนำทางอัจฉริยะ) 2,590,000
Premium (ระบบนำทางอัจฉริยะและมูนรูฟ) 2,690,000
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น