21 มกราคม 2554

Land Rover Discovery 4 Armoured อยากปลอดภัยเชิงทางนี้

นอกจากการผลิตเวอร์ชันธรรมดาเพื่อขายในตลาดแล้ว ทางแลนด์โรเวอร์ยังเปิดตลาดอีกกลุ่มด้วยรุ่น Armoured ซึ่งเป็นการติดเกราะให้กับเอสยูวีระดับหรูที่มีขายอยู่ในตลาด สำหรับรองรับกับความต้องการของลูกค้าคนพิเศษ ที่เน้นความปลอดภัยในชีวิตมากกว่าคนปกติธรรมดาก่อนหน้านี้เป็นงานของเรนจ์โรเวอร์ และดิสคัฟเวอรี 3 แต่สำหรับในตอนนี้ทางแลนด์โรเวอร์คลอดเวอร์ชัน Armoured ใหม่ออกมาแล้ว โดยหันมาอิงพื้นฐานของเอสยูวีระดับหรูขนาดกลางในตระกูลดิสคัฟเวอรี และเลือกเอารุ่นปัจจุบัน หรือ ดิสคัฟเวอรี 4 มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาต่อเนื่องด้วยการเสริมเกราะเพื่อความปลอดภัยเหนือระดับ

เมื่อมองจากภายนอกอาจะไม่ทราบถึงความแตกต่างจากรุ่นธรรมดา แต่เชื่อเถอะว่าดิสคัฟเวอรี 4 Armoured แตกต่างจริงๆ เพราะตัวรถได้รับการการปรับแต่งตัวรถให้สามารถผ่านมาตรฐานการปกป้องในระดับ BS EN 1522 FB6 และ BS EN 1063 BR6 ของยุโรป นั่นหมายความว่าดิสคัฟเวอรี 4 Armouredสามารถทนทานต่อการอานุภาพของปืนไรเฟิลประสิทธิภาพสูงได้

อีกทั้งยังมีการเสริมด้วยคานป้องกันการกระแทกทางด้านข้าง และพื้นตัวถังด้านล่างสามารถทนต่อแรงอัดของระเบิดมือแบบ DM51 รวมถึงแรงระเบิดที่มาจาก TNT ขนาด 15 กิโลกรัมหรือเทียบเท่าได้ และมั่นใจได้ในความปลอดภัยเพราะตัวรถผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานโดย QinetiQ องค์กรที่รับหน้าที่ทดสอบระบบความปลอดภัยและการป้องกันอันตรายจากการก่อการร้ายด้วยอาวุธหลากหลายรูปแบบ
งานเสริมเกราะให้กับตัวรถนั้น ทางวิศวกรของแลนด์โรเวอร์ทำงานร่วมกับบริษัท Centigon ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ และด้วยเหตุที่การติเกราะจำต้องทำให้น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 3.55 ตัน ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ทีมงานของแลนด์โรเวอร์จะต้องให้ความสนใจในเรื่องของการปรับปรุงโครงสร้างแชสซีส์ และระบบช่วงล่าง

โดยระบบช่วงล่างยังเป็นแบบ Air Suspension ที่เน้นความนุ่มนวลในขณะขับขี่ แต่ก็มีการปรับให้สามารถที่จะต้องรับภาระที่เพิ่มขึ้นด้วย เช่นเดียวกับดิสก์เบรกที่อัพเกรดเป็นขนาด 378 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์ขนาด 6 และ 4 ลูกสูบของ Alcon พร้อมยางแบบ Heavy Duty ของ Goodyear แบบ Run Flat
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของสมรรถนะบนเส้นทางออฟโรด ดิสคัฟเวอรี 4 Armoured ยังคงเอาไว้อยู่ แต่ทางผู้ผลิตไม่แนะนำให้ลุยบนเส้นทางที่อ่อนนุ่มมากๆ เช่น โคลน หรือทรายลึกๆ เพราะด้วยตัวถังที่หนักขึ้นค่อนข้างมาก อาจจะก่อให้เกิดปัญหาจมทรายหรือติดหล่มได้ ดังนั้น เวลาหาทางหนีทีไล่ เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางลักษณะนี้

หน้าที่ในการพาตัวถังอันอึ้งของเอสยูวีหุ้มเกราะคันนี้ให้ทะยานไปข้างหน้านั้นเป็นงานของเครื่องยนต์เบนซินแบบ Di บล็อกวี8 ที่ถูกอัพเกรดเพิ่มเรี่ยวแรงในการฉุดลากตัวถังโดยความจุในระดับ 5,000 ซีซีมีกำลังสูงสุดในระดับ 375 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 51.9 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ใช้เวลา 10.6 วินาที สำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ราคาไม่ได้เปิดเผย แต่ถ้าใครสนใจความปลอดภัยบนตัวถังระดับหรูในสไตล์เอสยูวี สามารรถสอบถามได้ที่โชว์รูมของแลนด์โรเวอร์ ได้เลย

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น