04 พฤษภาคม 2553

Opel Meriva : พกความอเนกประสงค์เต็มพิกัด


Opel Meriva : พกความอเนกประสงค์เต็มพิกัด
สำหรับแฟนๆ ของโอเปิล นอกจากชื่อของซาฟิราแล้ว อีกความอเนกประสงค์ที่ติดปากและเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง คือ น้องรุ่นเล็กอย่าง เมอริวา ที่มีขายอยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปี 2003 และตอนนี้ เมอริวามีการเปลี่ยนโฉมใหม่แล้ว โดยจะเริ่มลุยตลาดยุโรปอย่างเป็นทางการกลางปีนี้

เมอริวาใหม่เป็นสายพันธุ์ที่ 2 ของความอเนกประสงค์ในกลุ่มซับคอมแพ็กต์รุ่นนี้ โดยเปิดตัวครั้งแรกที่เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อทำตลาดแทนที่รุ่นแรกที่ได้รับความนิยมระดับหนึ่งด้วยตัวเลขยอดขายที่มากถึง 1 ล้านคันในยุโรป

แน่นอนว่าเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์ของเมอริวาใหม่คือสิ่งที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ การปรับแนวคิดของการเปิด-ปิดประตู ซึ่งมีการนำมาใช้เป็นครั้งแรกกับเมอริวาใหม่ โดยประตูทั้ง 4 บานจะเปิดออกในลักษณะเหมือนตู้กับข้าว ซึ่งโอเปิลใช้ชื่อเรียกว่า FlexDoors แต่จะมีความแตกต่างจากประตูลักษณะนี้ตรงนี้ในเมอริวาจะยังมีเสากลาง หรือ B-Pillar เหมือนกับรถยนต์ 4 ประตูทั่วไป เพื่อความปลอดภัยและความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถัง

โดยลักษณะของประตูหลังที่ย้ายจุดยึดของบานพับจากเดิมที่อยู่ตรงเสากลางมาอยู่ที่ตัวถังด้านท้ายนั้นจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าและออกจากห้องโดยสารของผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหลังได้เป็นอย่างดี เพราะบานประตูสามารถเปิดได้กว้างถึง 84 องศา ขณะที่ประตูหลังแบบเดิมๆ เปิดได้สูงสุดไม่เกิน 70 องศา

ในเรื่องประโยชน์ใช้สอยก็สามารถตอบสนองได้อย่างพอตัวตามแบบฉบับความอเนกประสงค์ที่พัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์ในขนาดซับคอมแพ็กต์ โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับเก็บได้ทั้งหมดหรือแยกส่วน พร้อมกับจุดยึดที่เรียกว่า FLexFix ซึ่งเป็นตัวยึดจักรยานที่ติดตั้งตายตัวอยู่ในกันชนท้ายของรถยนต์เลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง

ส่วนเครื่องยนต์ที่จะทำตลาดนั้น ทางโอเปิลยังไม่ได้แจ้งออกมาทั้งหมด นอกจากจะบอกคร่าวๆ ว่ามีให้เลือกทั้งแบบเบนซินแบบหายใจเอง และเทอร์โบ เช่นเดียวกับเทอร์โบดีเซล โดยอยู่บนพื้นฐานของแบบ 4 สูบเรียง ที่มีกำลังอยู่ในช่วงระหว่าง 75-140 แรงม้า และยังมีรุ่นประหยัดที่เรียกว่า ecoFLEX ตามออกมาเป็นอีกทางเลือก

แม้การวิจัยและพัฒนาตัวรถจะมีขึ้นที่ศูนย์ของโอเปิลในเมืองรุสเซลไฮม์ ประเทศเยอรมนี แต่การผลิตจะอยู่ที่โรงงานในเมืองซาราโกซา ประเทศสเปน โดยการทำตลาดยุโรปจะเริ่มขึ้นกลางปีนี้ ส่วนบ้านเรา คงยากที่จะได้สัมผัส เพราะว่าชื่อของโอเปิลหายสาบสูญไปจากตลาดนานแล้ว
ที่มา http://www.mgronline.com/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000053512

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น