07 เมษายน 2553

Nissan X-TRAIL : แตกต่างอย่างมีชั้นเชิง (ข่าวประชาสัมพันธ์)

Nissan X-TRAIL : แตกต่างอย่างมีชั้นเชิง (ข่าวประชาสัมพันธ์)
ยุคที่ทางเลือกในตลาด SUV ของเมืองไทยมีอยู่มากมาย หลายแบบหลายสไตล์ให้สัมผัส นิสสันนำเสนอทางเลือกใหม่ที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างสำหรับลูกค้า SUV ด้วย X-TRAIL ใหม่ที่มาในสไตล์ขับเคลื่อนล้อหน้า สมรรถนะบนทางเรียบพอตัว และความประหยัดด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง แต่ยังคงภาพลักษณ์และบุคลิกอันสมบุกสมบันและแข็งแกร่งที่ครบถ้วนตามแบบฉบับ SUV
สำหรับคนที่ชอบ SUV เพราะรูปลักษณ์ทรงบึกบึน แต่เน้นการใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก และต้องการทางเลือกที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ทันใจพร้อมความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
นี่คือ คำตอบที่ลงตัวสำหรับความต้องการที่แตกต่าง
แผงหน้าปัดสวยแบบเรียบ ๆและจัดวางปุ่มควบคุมได้อย่างเหมาะสม สะดวกในการใช้งาน
สะท้อนบุคลิกแห่งความบึกบึน
X-TRAIL ใหม่ได้รับการออกแบบและพัฒนาตามตามแนวคิด X-Construction Design ซึ่งให้สัมผัสของการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความโฉบเฉี่ยวในเชิงรูปลักษณ์ภายนอกเข้าด้วยกันอย่างลงตัวตามแบบฉบับ SUV ของนิสสัน
บนตัวถังแบบ 5 ประตู X-TRAIL ใหม่มีความยาว 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,785 มิลลิเมตร สูง 1,685 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,630 มิลลิเมตร ทุกรายละเอียดบนตัวถังสามารถสะท้อนถึงเอกลักษณ์งานออก แบบของนิสสัน โดยใช้สไตล์ของโครงสร้างบนพื้นฐานรูปทรงเรขาคณิตแบบสี่เหลี่ยมมาเป็นแนวทาง
ตามแนวคิดนี้ สี่เหลี่ยมเป็นรูปทรงที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและสามารถบรรจุสิ่งของได้มากที่สุด พร้อมสำหรับใช้งานแบบอเนกประสงค์ มาพร้อมกับดีไซน์เส้นข้างตัวรถเป็นแนวเส้นตรง ให้ความรู้สึกแข็งแรง มั่นคง พร้อมกระจกข้างตั้งเป็นแนวตรง เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีรอบตัวรถ
ขณะที่รายละเอียดรอบคันสวยโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ซึ่งมาพร้อมกับไฟหน้าทรงเหลี่ยมดวงโตและถูกขยับความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมเพื่อประสิทธิภาพในการส่องสว่างในยามค่ำคืน สอดรับกับกันชนหน้าลายใหม่ทรงบึกบึน และกระจังหน้าทรงเหลี่ยมพร้อมแถบคาดกลางในแนวตั้ง 2 แถบตามสไตล์นิสสัน และด้านท้ายมีการออกแบบรูปทรงของไฟท้ายเป็นแบบเหลี่ยมตั้งสูงตามแนวของเสาหลังและดวงไฟเป็นแบบ 3 มิติ ทำให้ผู้ขับที่ตามมาด้านหลังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ด้านท้ายสวยสะดุดตากับไฟท้ายทรงสูง และสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
แน่นอนว่าทีมงานของนิสสันไม่ได้ออกแบบรูปลักษณ์ของ X-TRAIL ใหม่โดยเน้นที่ความสวยสปอร์ตเพียงอย่างเดียว แต่ทว่าภายใต้ความสะดุดตาเหล่านี้ ยังแฝงด้วยประโยชน์ใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใต้ท้องรถที่สูงสามารถลุยน้ำหรือเส้นทางวิบากได้ โอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าและหลัง (เมื่อวัดจากกึ่งกลางของดุมล้อไปยังขอบของกันชนด้านหน้าและหลัง) ที่มีขนาดสั้น ทำให้ตัวรถมีความคล่องตัวไม่ว่าจะการขับในเมืองเวลาซอกซอนไปตามการจราจรที่คับคั่ง หรือ การเพิ่มมุมไต่ (Approach Angle) และมุมจาก (Departure Angle) ในขณะลุยวิบากได้
นอกจากนั้นยังเพิ่มความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังทรงใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้เข้ากับบุคลิกของตัวรถ เช่นเดียวกับล้อแม็กลายสวยขนาด 6.5X16 นิ้วจับคู่กับยางขนาด 215/65R16
จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกครั้ง ของการจอดเพื่อซื้อของฝากตามจุดพักรถ หรือซื้อเครื่องดื่มตามปั๊มน้ำมัน จะพบกับการให้ความสนใจของคนรอบข้างที่มักจะเดินมามองและสำรวจถึงความแปลกใหม่ที่ X-TRIAL สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่เดินไปเดินมาได้แผงมาตรวัดเน้นความสปอร์ตในแบบดวงกลมแยก โดยมีหน้าจอ MID แสดงข้อมูลต่างๆ ของตัวรถอยู่ตรงกลาง
สอดรับกับชีวิตกลางแจ้งอย่างแท้จริง
รายละเอียดภายในห้องโดยสาร ถือเป็นอีกจุดเด่นของนิสสัน X-TRAIL รุ่นแรกที่ทำให้ลูกค้าทั่วโลกยอมรับและชื่นชอบ เพราะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ ทางนิสสันยังคงรูปแบบของแนวคิดและประโยชน์ในการใช้งานเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นด้านของชีวิตคนเมืองในแบบธรรมดา หรืออีกบทบาทหนึ่งกับการชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง
ทุกรายละเอียดภายในห้องโดยสารมีการเลือกใช้วัสดุที่เน้นไปตรงที่ความ ‘ง่าย’ ในการทำความสะอาด เพราะด้วยการวางคอนเซ็ปต์ให้ X-TRAIL เป็นรถยนต์สันทนาการตามชื่อรุ่น แน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในห้องโดยสารจะต้องสามารถรองรับกับการใช้งานในแบบเลอะเทอะหรือเปรอะเปื้อนได้ และจะต้องทำความสะอาดได้ ‘ง่าย’ เช่นเดียวกับการตอบสนองความลงตัวในด้านความหรูแบบมีสไตล์
เมื่อเปิดฝากระโปรงขึ้นหลังมาจะพบกับผลผลิตที่มาจากแนวคิดนี้ โดยห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายของตัวรถเลือกใช้พลาสติกเป็นวัสดุสำหรับปูพื้น ทำให้สามารถวางเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เปื้อนโคลนหรือเปียกน้ำได้อย่างไม่ต้องกังวลใจว่า จะต้องมองหาคาร์แคร์เพื่อทำความสะอาดในภายหลัง
อีกทั้งพื้นของห้องเก็บสัมภาระด้านหลังยังถูกออกแบบให้เป็น 2 ชั้น และพื้นพลาสติกที่ปูอยู่ด้านบนถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเพื่อความสะดวกในการยกขึ้น ซึ่งเมื่อยกขึ้นแล้วจะพบกับชั้นใส่ของที่ซ่อนอยู่ด้านล่างพร้อมกับลิ้นชัก ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้สำหรับเก็บสัมภาระที่ไม่ต้องการให้คนมองเห็นจากภายนอกได้หัวเกียร์ดีไซน์ได้อย่างสวยสปอร์ตและจับกระชับมือ
ด้านหลังของเบาะนั่งหลังเปลี่ยนจากวัสดุที่เป็นผ้าสักหลาดซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ตาม SUV ที่มีการพับเบาะด้านหลังได้มาเป็นพลาสติกแบบเดียวกับที่ใช้ปูห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง ซึ่งเมื่อพับเบาะหลังลงพื้นด้านหลังนี้จะวางต่อเนื่องและกลมกลืนในแบบ Flat Floor กับพื้นพลาสติกที่อยู่บนห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย เพื่อประโยชน์ในเรื่องการทำความสะอาด
ดังนั้น การวางจักรยานเสือภูเขาทั้งคันพร้อมกับล้อที่ถูกถอดออกมาและเต็มไปด้วยคราบโคลนและสิ่งสกปรก หรือว่าจะวางถุงอาหารทะเลสำหรับปิกนิกกลางแจ้งที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้โดยไม่ต้องมากังวลใจถึงการขจัดคราบหรือความเปียกชื้นที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้น ลูกเล่นของความสารพัดประโยชน์บนตัวเบาะหลังยังก็มีอยู่ กับที่วางแขนแบบพับได้ของเบาะนั่งหลัง ซึ่งสามารถดันให้ทะลุจากทางด้านหลัง (อาจจะต้องใช้แรงดันหน่อย) เพื่อวางสัมภาระที่มีขนาดยาวและผอมเป็นพิเศษ เช่น ท่อน้ำ หรือท่อนไม้ โดยที่ไม่ต้องพับเบาะลงทั้งชุด
แต่ถ้าสัมภาระมีความยาวเกิดมีขนาดความกว้างเกินกว่าจะสอดเข้าช่องนี้ได้ ก็สามารถแยกพับเบาะหลังลงไปได้ เพราะทางนิสสันออกแบบให้เบาะหลังสามารถแยกได้ในอัตราส่วน 60:40ช่องวางขวดน้ำที่ออกแบบให้วางอยู่ตรงมุมของแผงหน้าปัดและไม่สร้างความรำคาญในขณะขับขี่
ดูดี มีสไตล์บนความอเนกประสงค์
นิสสันไม่ได้ให้ความสนใจการออกแบบในห้องโดยสารโดยเน้นแค่เรื่องความสะดวกในการใช้งานเพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เท่านั้น...ดูดี มีสไตล์ และอเนกประสงค์ คือ อีกจุดเด่นที่สามารถสัมผัสได้เวลานั่งอยู่ภายใน X-TRAIL ใหม่
ห้องสัมภาระด้านท้ายมีลิ้นชักเตรียมเอาไว้ให้ด้วย
จุดเด่นสำหรับ SUV อย่าง X-TRAIL คือ การจัดวางรูปแบบของเบาะนั่งให้อยู่ในระดับสูงกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป ตรงนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเส้นทางข้างหน้าแล้ว ยังให้สัมผัสที่ผ่อนคลายโดยเฉพาะเวลาที่ต้องขับรถเดินทางไกล เพราะขามีลักษณะห้อยขาลงและเบาะนั่งยังมีขนาดใหญ่ยาวจนสามารถรองรับท่อนขาส่วนบนเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่เมื่อยล้ามาก แถมยังให้ความสะดวกในการเข้าและออกจากห้องโดยสารอีกด้วย ซึ่งตลอดกว่า 2 ชั่วโมงของการเดินทางไป-กลับจากกรุงเทพฯ-บางแสนถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ได้สร้างความเมื่อยล้าเลย
สำหรับอุปกรณ์ทุกอย่างในห้องโดยสารถูกจัดวางอย่างมีระเบียบและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวรถอยู่ใกล้มือผู้ขับ ทำให้สะดวกเวลาจะกดใช้งานโดยที่ไม่ต้องละสายตาจากถนน เช่นเดียวกับมาตรวัดรอบเครื่องยนต์และความเร็ว ซึ่งมาพร้อมตัวเลขที่มีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถมองเห็นข้อมูลได้อย่างชัดเจนพื้นของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
นอกจากนั้นยังมีหน้าจอ MID (Multi-information Display) พร้อมแสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ ในตัวรถ เช่น นาฬิกา ตำแหน่งเกียร์ ความเร็วโดยเฉลี่ย ระยะทางที่สามารถวิ่งต่อไปได้ ระยะเวลาที่ขับ อุณหภูมิภายนอก ตำแหน่งเกียร์ ระดับน้ำมัน และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย ใช้งานสะดวก สามารถกดดูได้จากปุ่มที่อยู่บนแผงมาตรวัด

การเลือกใช้วัสดุในการผลิตชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลกลาง แผงมาตรวัด พวงมาลัย หรือแผงประตู เน้นในเรื่องของประโยชน์ใช้สอยผสมผสานกับการตอบสนองในด้านสัมผัสแห่งความหรูทั้งในเชิงความรู้สึกและการจับต้อง

อีกทั้งยังเพิ่มความสวยสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว เช่น การตกแต่งแผงคอนโซลกลางและฐานคันเกียร์ด้วยลายสีเงินเมทัลลิค มาตรวัดรอบเครื่องยนต์และความเร็ว ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์อย่างสปอร์ตในแบบดวงกลมแยก และการเน้นโทนสีเข้มตกแต่งภายในห้องโดยสารทั้งแผงหน้าปัด แผงประตูในสไตล์ทูโทน ดำ-เทา หรือเบาะนั่งหุ้มหนังที่มาในสีดำฝากระโปรงท้ายเปิดได้สูงเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัมภาระ
ในด้านความอเนกประสงค์ตามคอนเซ็ปต์ Xtra Utility นอกจากเบาะนั่งหลังซึ่งสามารถพับลงมาทั้งหมดหรือแยกพับในอัตราส่วน 60 หรือ 40% แล้วตามจุดต่างๆ ของตัวรถมีการติดตั้งช่องสำหรับเก็บสัมภาระขนาดเล็กอยู่ตามจุดต่างๆ ของตัวรถ เช่น
ตรงมุมของแผงหน้าปัดบริเวณเสากระจกบังลมหน้าถูกออกแบบให้เป็นช่องสำหรับวางแก้วน้ำหรือขวดน้ำ ซึ่งอยู่ในมุมที่ไม่บดบังทัศนวิสัยหรือสร้างความรำคาญทางสายตา แถมยังสะดวกต่อการหยิบจับ หรือตรงเบาะหลังก็มีที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้ซ่อนอยู่ตรงด้านหลังของแผงคอนโซลกลาง โดยเมื่อกางออกมาแล้วจะมีช่องแอร์เป่าออกมาสำหรับคงความเย็นของเครื่องดื่มที่วางเอาไว้ด้วย หรือถ้าไม่ต้องการใช้ก็สามารถปิดได้ ถือเป็นอีกไอเดียที่แสดงถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดได้เป็นอย่างดี

ไม่เน้นลุย แต่เด่นบนทางเรียบ

ความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าในยุคปัจจุบันถือเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องรับฟังและตอบโจทย์ความต้องการให้ได้ และสำหรับตลาด SUV เองแล้ว แม้ตัวรถจะถูกผลิตหรือออกแบบมาเพื่อการลุยทางวิบากได้ในระดับหนึ่ง แต่ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป จะมีกี่ครั้งที่ต้องลุย หรือบางคนเมื่อซื้อรถมาแล้วก็ไม่เคยแม้แต่จะเอาล้อลงจุ่มโคลนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เหตุผลที่ซื้อ ก็เพราะชอบรถยนต์สไตล์นี้ หรือเบื่อความซ้ำซากของรถเก๋งในสไตล์ 3 กล่องที่มีอยู่เกลื่อนตลาดมากกว่าล้อแม็กลายสปอร์ตมีขนาด 16 นิ้ว
นิสสันสร้างความแตกต่างให้กับ X-TRAIL ใหม่สำหรับเมืองไทยด้วยการเจาะตลาดที่แตกต่างออกไปกับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เน้นการใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก เพราะในเมื่อไม่เน้นลุย ทำไมจะต้องเลือกรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อที่ตัวรถจะต้องแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาแบบเปล่าประโยชน์เพราะชิ้นส่วนและอุปกรณ์ของระบบขับ 4WD ให้เปลืองน้ำมันด้วย

เครื่องยนต์ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนเป็นรหัส MR20DE แบบ 4 สูบเรียง ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซีพร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC และเพลาถ่วงสมดุลขนาดกะทัดรัด หรือ Compact Balancer shaft เพื่อทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบและลดอาการสั่นสะเทือน มีกำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.0 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการฉุดตัวถังที่มีน้ำหนัก 1,460 กิโลกรัมพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างทันใจ

การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องอัจฉริยะ หรือ CVT รุ่น XTRONIC CVT พร้อม M-Mode สำหรับคนที่ชอบเล่นเกียร์หรือเอาไว้เรียกอัตราเร่งเวลาแรงแซง โดยตัวระบบจะมีการล็อกอัตราทดเอาไว้ 6 จังหวะตั้งแต่ 1.772-0.570 แต่ถ้าเป็นการขับปกติตามโหมด D-Range ตัวพูเลย์จะมีการทำงานในการสร้างอัตราทดที่เหมาะสมกับสภาพการขับระหว่าง 2.349-0.394 เพื่อความประหยัดน้ำมัน
เครื่องยนต์ MR20DE ของนิสสันรีดกำลังออกมาได้ 136 แรงม้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนตัวถังที่มีน้ำหนักร่วมตันครึ่งของเอ็กซ์-เทรล ได้
เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการใช้งานของ M-Mode ระบบจะมีการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นเองโดยอัตโนมัติหากผู้ขับกดคันเร่งค้างเพื่อลากรอบเครื่องยนต์จนถึงใกล้ถึงขีด Red Line เพื่อป้องกันเครื่องยนต์พังเพราะความผิดพลาดของคนขับ

136 แรงม้าอาจจะดูไม่มากนักในเชิงตัวเลข แต่ด้วยตัวถังที่ไม่ต้องรับภาระแบกน้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นมาไปไหนมาไหนด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไร ทำให้การทะยานของ X-TRAIL รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทำได้อย่างทันใจ การเร่งแซงขณะแล่นอยู่บนมอเตอร์เวย์เพื่อมุ่งหน้าสู่บางแสนโดยอาศัย M-Mode เข้าช่วยทำให้การตอบสนองต่อการกดคันเร่งเป็นไปได้ตามต้องการ

และจากการที่พื้นฐานตัวรถได้รับการพัฒนาโดยอิงกับรถยนต์นั่งด้วยระบบช่วงล่างแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทที่ด้านหน้า และอิสระ มัลติลิงก์ที่ด้านหลัง ทำให้การยึดเกาะและการทรงตัวขณะแล่นบนความเร็ว รวมถึงความนุ่มนวลที่ส่งผ่านมาออกมาทำได้ดีกว่า SUV ที่ดัดแปลงโดยใช้พื้นฐานของปิกอัพ

นอกจากนั้น X-TRAIL ใหม่ยังตอบสนองในด้านความปลอดภัยครบครันทั้งด้วยระบบความปลอดภัยทั้งในเชิงปกป้อง หรือ Passive Safety เช่น โครงสร้างตัวถังอันแข็งแกร่ง Zone Body ของนิสสัน ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทั้งด้านหน้าและหลัง โดยคู่หน้าเป็นแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ หรือ Pre-tensioners and Load Limiter Seatbelt เบาะนั่งคู่หน้าซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบพนักพิงศีรษะให้ลดอาการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเวลาที่เกิดการชนทางด้านท้าย รวมถึงระบบความปลอดภัยในเชิงป้องกัน หรือ Active Safety เช่น ระบบป้องกันล้อล็อกหรือเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีบีดี และระบบเสริมแรงเบรกหรือบีเอ…เรียกว่าครบครันและอุ่นใจในทุกการเดินทาง

คนที่กำลังมองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่มีทั้งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน บนภาพลักษณ์ลุยๆ ในสไตล์ SUV ได้อย่างลงตัว นิสสัน X-TRAIL ถือเป็น SUV อีกหนึ่งทางเลือกในตลาดที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในลักษณะนี้ได้อย่างตรงจุด…เด่นบนทางเรียบ แต่ยังให้สัมผัสแห่งความแข็ง แกร่งในทุกมุมมอง

ดูรายละเอียดเพิมเติมได้ที่ : www.nissan.co.th
ที่มา http://www.mgronline.com/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000047251

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น