08 เมษายน 2553

ไม่ถูกอย่างที่คิด Tata Nano รถจิ๋วราคาไม่จิ๋ว ทะลุ 8,000 เหรียญฯ ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อื้อซ่า!


ไม่ถูกอย่างที่คิด Tata Nano รถจิ๋วราคาไม่จิ๋ว ทะลุ 8,000 เหรียญฯ ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อื้อซ่า!
Tata Nano รถขนาดจิ๋วที่ว่ากันว่า(จะ)เป็นรถยนต์นั่งที่ราคาถูกที่สุดในโลก แต่ล่าสุดอาจจะไม่เป็นเรื่องง่ายอย่างที่คาดหมายกัน(แม้ว่า Nano ยังถือว่าน่าจะเป็นรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุด) เพราะราคาขายจริงๆอาจจะไม่น่าประทับใจอย่างที่ใครๆคิดว่ามีเงินไม่ถึงแสนก็หาซื้อมาใช้ได้ เพียงเพราะการนำเอาราคาที่ติดป้ายในอินเดียที่ 2,500 เหรียญสหรัฐฯ(โดยประมาณ)มาเป็นตัวตั้ง ที่สำคัญราคาดังกล่าวเป็นราคาเริ่มต้นที่ไม่มีระบบปรับอากาศ กันชนไม่มีการทำสีใดๆ หรือไม่มีอุปกรณ์หลายอย่างที่ City Car ควรจะมี เพราะล่าสุดสำนักข่าว Associated Press อ้างแหล่งข่าววงในว่า ราคา Tata Nano ที่จะเริ่มขายในสหรัฐอเมริกาภายใน 3 ปีนับจากนี้ อาจจะสูงถึง 8,000 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 270,000 บาท สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศวันนี้) ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับที่จะขายในยุโรปในปีหน้า

สาเหตุที่ทำให้ราคาไม่ต่ำอย่างที่หวังกันไว้ก็เพราะสเปคของรถรุ่นนี้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่า เราก็อยากให้รถที่มาจำหน่ายในประเทศได้มาตรฐานสากลอย่างที่มันควรจะเป็น(นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ AutoSpinn เกิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้รถชาวไทยได้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลหรือสิทธิ์ที่ควรจะได้เหมือนกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ) ราคาที่สูงขึ้นก็เนื่องมาจากจะต้องมีอุปกรณ์ต่างๆที่เพิ่มเข้ามามากมายไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งถุงลมนิรภัย กันชนที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย(ซึ่งต้องหนาขึ้นกว่าที่จำหน่ายในประเทศอินเดีย) หลังคาและตัวถังที่ต้องแข็งแรงมากขึ้น เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 623 ซีซี ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยไอพิษสู่อากาศ พวงมาลัยที่ต้องปรับปรุง นอกจากนั้นยังมีเรื่องของคุณภาพของอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ภายในรถ แม้ว่า Tana Nano จะผ่านการทดสอบทางด้านความปลอดภัยเพื่อจำหน่ายในยุโรปแล้ว แต่ในสหรัฐอเมริกาก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าอาจจะผ่านมาตรฐานต่างๆได้ในที่สุด แต่ในเรื่องของราคาก็อาจจะไม่ผ่านลูกค้าที่กำลังรอลุ้นกันอยู่
กลับมามองเมืองไทยกันบ้าง ในทางปฏิบัติแล้ว การทำราคาให้ได้ในระดับที่แข่งกับ Ecocar ที่กำลังจะเริ่มทำตลาดในเมืองไทยในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆเหมือนอเมริกาแล้ว ยังอาจจะเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ระบบปรับอากาศที่เมืองไทยถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยเฉพาะคนที่ต้องการซื้อไว้ใช้ในเมืองที่รถติดมลพิษกระจายเหมือนเมืองใหญ่ๆโดยเฉพาะกรุงเทพฯ (แม้ว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้ Heater เหมือนในประเทศเมืองหนาวก็ตาม) ในเรื่องของมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของบ้านเรา จะว่าไปแล้วควรจะสูงกว่าอเมริกาด้วยซ้ำ เพราะทราบกันอยู่ว่า การขับรถในบ้านเรามันอันตรายไม่แพ้ใครในโลก คนไทยไม่แพ้ใครในโลก!
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า ในเร็วๆนี้คนไทยกำลังจะมีทางเลือกใหม่ที่อาจจะทำให้ Tata Nano ถูกลืมไปเลย เพราะในเดือนมีนาคมที่กำลังจะมาถึงนี้ Nissan เตรียมเปิดตัวรถ Ecocar ในราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3.5 แสนบาท นี่ยังไม่รวมค่ายอื่นๆที่กำลังจะทยอยเปิดตัวในปีหน้า(ในขณะนี้มีเพียง Honda ที่ยืนยันออกมาแล้ว) ซึ่งในตอนนั้นเรายังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า Tata จะตัดสินใจขาย Nano ในไทยแล้วหรือยัง
แต่ถ้าเปรียบเทียบราคากันแล้วก็ต้องบอกว่าสูสีกับ Ecocar เพราะ 2.7 แสนบาทต่อคัน รวมภาษีในอัตราเดียวกับ Ecocar ติดตั้งระบบปรับอากาศและอุปกรณ์ทางด้านความปลอดภัยต่างๆ และถ้ามาในมาตรฐานอเมริกาแล้ว ก็ต้องบอกว่าราคาอาจจะทะลุ 3 แสน แต่ชื่อชั้นและภาพลักษณ์รถยนต์จากอินเดีย รวมถึงเรื่องของอะไหล่และบริการหลังการขายแล้วก็ต้องบอกว่า คะแนนเทมาที่ Ecocar จากญี่ปุ่นเห็นๆ เว้นแต่ Tata วางตำแหน่งทางการตลาดใหม่ให้กับ Nano ในระดับที่ต่ำกว่า Ecocar แต่สูงกว่ามอเตอร์ไซค์ แล้วลดต้นทุนด้วยการตัดอุปกรณ์เสริมต่างๆออกไป แต่ Tata ก็อาจจะไม่ชอบในแนวทางที่ทำให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสียลงไปถึงขั้นไปแข่งกับมอเตอร์ไซค์ เพราะอุตส่าห์เทคโอเวอร์ Jaguar กับ Land Rover มาหมาดๆ
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดเดาจากข้อมูลในต่างประเทศเท่านั้นนะครับ เพราะเอาเข้าจริงก็ต้องมาดูกันว่า Tata (ประเทศไทย) จะมีแผนการณ์อย่างไรสำหรับตลาดนี้ แต่ถ้าอีก 2 ปีกว่าจะเข้ามาขาย ก็ต้องบอกว่าช้าเกินไป เพราะในตอนนั้น เผลอๆคนส่วนใหญ่ในเมืองไทยอาจจะขับรถไฮบริดหรือรถไฟฟ้ากันไปแล้ว ใครจะไปรู้?!

ที่มา: Associated Press/Yahoo News/autospinn.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น