27 มกราคม 2553

เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 อัพแรงเพิ่ม เกาะเหมือนเดิม


เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 อัพแรงเพิ่ม เกาะเหมือนเดิม
ตลาดรถเล็กของประเทศไทยเวลานี้อยู่ในช่วงร้อนแรงสุด เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีค่ายรถทยอยเปิดตัวน้องใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างไม่ขาดสาย ตามกระแสข่าวถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดภายในช่วง 3 ปีข้างหน้าผู้บริโภคจะมีตัวเลือกของรถเล็กเพิ่มขึ้นอีกราว 5-6 ยี่ห้อ ขณะที่ผู้เล่นเดิมในตลาดต่างก็พยายามสร้างความเคลื่อนไหวด้วยหวังไม่ตกกระแส

“เชฟโรเลต” อีกหนึ่งค่ายที่มีรถเล็กทำตลาดอยู่ “อาวีโอ” หลังเผยโฉมมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ทางค่ายเจ้าของโลโก้โบว์ไทด์ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยการปล่อย อาวีโอรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชอบความแรงและรู้สึกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเดิมนั้นยังไม่พอ โดยหวังสัดส่วนการขายราว 40%ของยอดขายอาวีโอทั้งหมด

การเปิดตัวมีขึ้นในงานมหกรรมยานยนต์ปลายปี 2552 และเพื่อความต่อเนื่องทางเชฟโรเลตเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดลองขับ อาวีโอ 1.6 บนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน รวมเป็นระยะทางการขับราว 290 กม. แต่ก่อนจะไปถึงช่วงการขับ เรามาทำความรู้จักกับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรกันสักนิดก่อน

สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรตัวนี้ รหัส F16D3 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับรุ่น 1.4 ลิตร(และรุ่น 1.6 ลิตรของออพต้า) ที่ได้รับการขยายความจุและปรับแต่งให้เหมาะสมกับอาวีโอ โดยเป็นแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว หัวฉีดระบบมัลติพอยท์ มีพละกำลังสูงสุด 102 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที(รุ่น 1.4 แรงม้าสูงสุด 94 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที เพิ่มมากกว่าตัว 1.4ลิตร 15 นิวตันเมตร

สิ่งที่แตกต่างอื่นๆ จากรุ่น 1.4 ลิตรก็คือ เรื่องของน้ำหนักตัวรถเพิ่มจากเดิมราว 40-50 กิโลกรัม และสเปคของยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ในรุ่น Sport SS คือ 195/45 R16 ซึ่งมีผลต่อการเกาะถนนอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะรุ่น 1.4 ตัวธรรมดาจะมีขนาดยางเพียง 175/65 R14 เท่านั้น

ขณะที่ออปชันจะมีในส่วนของพวงมาลัยเป็นแบบ 4 ก้าน, ช่องแอร์สีโครเมี่ยม, เบาะนั่งคนขับแบบปรับระดับสูงต่ำได้พร้อมที่วางแขน และถุงลมนิรภัย แต่ทั้งนี้ออปชันบางส่วนอาจจะคาบเกี่ยวกันอยู่บ้างโดยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่แตกต่างกันซึ่งรุ่น 1.6 จะมี 4 ทางเลือกได้แก่ รุ่น LSX รุ่น LT รุ่น Sport SS และ รุ่น LUX

ทำความรู้จักกันพอหอมปากหอมคอก็มาถึงเรื่องของการทดลองขับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง การเดินทางเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ย่านถนนจันทร์ โดยเราประจำการอยู่ในรุ่น Sport SS ราคา 6.89 แสนบาท และเลือกเป็นผู้โดยสารทางด้านหน้าเป็นลำดับแรก ความรู้สึกยังเหมือนเดิม คอนโซลหน้าของอาวีโอใหญ่และยื่นออกมาทำให้การวางขาชนพอดีสำหรับคนตัวสูงราว 173 ซม.

ช่วงแรกของการเดินทางแบบในเมือง ค่อนข้างคล่องตัวด้วยขนาดตัวรถที่เล็ก ทัศวิสัยชัดเจนดี เมื่อขึ้นและลงทางด่วนเข้าสู่ช่วงถนนพระราม 2 ผู้ขับใช้ความเร็วได้ไม่สูงนักราว 100-120 กม./ชม. เนื่องจากเป็นการขับแบบตามขบวน แต่ผู้ขับช่วงนี้ก็มีความพยายามในการทดลองหาความเร็วสูงสุดด้วยการเว้นระยะห่างซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 170 กม./ชม.

หลังจากนั้นมาถึงจุดแวะพักเพื่อเปลี่ยนคนขับ ครั้งนี้เราเลือกนั่งทางด้านเบาะหลัง ความรู้สึกแรกค่อนข้างกว้างขวางมีพื้นที่หน้าขาและเหนือศรีษะเหลือเฟือ แถมเบาะยังนุ่มสบายกว่ารถในระดับเดียวกันบางรุ่น การเก็บเสียงจากถนนทำได้ดี เพียงพอจะงีบหลับได้อย่างสบายอารมณ์

จากนั้นก็มาถึงสนามแข่งรถแกร่งกระจาน เซอร์กิต ซึ่งเชฟโรเลตจัดเตรียมเอาไว้ให้สื่อมวลชนได้ขับเจ้าอาวีโอทั้ง 2 รุ่น (1.4 กับ1.6) เปรียบเทียบกันในสนาม ซึง่เราจองขับเป็นคิวแรก

เริ่มต้นขับรุ่น 1.4 จำนวน 2 รอบสนาม แล้วก็ขึ้นมาขับรุ่น 1.6 ต่อ ความแตกต่างที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนที่สุด คือ อัตราเร่งรุ่น 1.6 ตอบสนองทันใจกว่า รองลงมาเป็นเรื่องของการเกาะถนนตัว 1.6 ให้ความรู้สึกเกาะโค้งมากกว่าตัว 1.4 ซึ่งแสดงให้เห็นในหลายๆ โค้งของสนาม ทั้งนี้เป็นผลมาจาก1.6ยางมีขนาดกว้างกว่าและแรงบิดเพิ่มสูงขึ้น ส่วนช่วงล่างเซ็ทเหมือนกัน

เมื่อเสร็จจากการทดลองขับเปรียบเทียบในสนาม ก็มาถึงการขับช่วงสุดท้ายซึ่งเราประจำการหลังพวงมาลัย ปรับระดับและจัดระเบียบให้ทุกอย่างเข้าที่ พร้อมเดินทาง เราเหยียบคันเร่งนำพาอาวีโอวิ่งตามขบวนออกไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

การตอบสนองของเครื่องยนต์แม้จะเป็น 1.6 ลิตรแล้ว แต่ความรู้สึกของเราบอกว่า ถ้าเปรียบกับรถของค่ายอื่น เรื่องแรงยังสู้รถเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของคู่แข่งหลายรายไม่ได้ รวมถึงความสนุกของการขับขี่ก็ยังไม่ใช่เช่นกัน แต่หากเป็นเรื่องของความสบายและง่ายในการขับแล้วละก็ อาวีโอ คันนี้ใช่เลย

สำหรับการขับช่วงนี้ มีวิ่งผ่านสันเขี่อน,ทางขรุขระบางช่วง,ขึ้นและลงเขา บนถนนลาดยาง อาวีโอขับผ่านทุกที่แบบสบายๆไม่ต้องหวั่นใจแต่อย่างใด เมื่อออกวิ่งบนทางปกติเส้นหัวหิ-ชะอำความเร็วที่เราใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ราว 100-120 กม./ชม. เสียงลมประทะเริ่มดังให้ได้ยินที่ความเร็วราว 110 กม./ชม.

การขับด้วยความเร็วสูงกว่า 120 กม./ชม. เรารู้สึกว่าพวงมาลัยของอาวีโอค่อนข้างเบา แต่การเกาะถนนยังมั่นคง ด้วยระบบช่วงล่างแบบ ยูโร-ไรด์ ด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง ช็อคอัพแก๊ส พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังเป็นแบบ ทอร์ชั่นบีม ยูโรปเปียนเฮลิคัล สปริง พร้อมช็อคอัพแก๊ส

ทั้งนี้ ก่อนถึงจุดหมายอันเป็นที่พัก ผู้นำขบวนขับหลงทางทำให้เราได้มีโอกาสทดลองรัศมีวงเลี้ยว 5.03 เมตร บนถนน 2 เลน ซึ่งอาวีโอต้องถอยหลัง เลี้ยวครั้งเดียวไม่พ้น ส่วนอัตรบริโภคน้ำมัน ไม่มีหน้าจอแสดงผล (ที่คู่แข่งมีกันเกือบทุกค่ายแล้ว) ทำให้เราไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจน ทราบคร่าวเพียงว่า ตลอดการขับ เกือบ 300 กม.น้ำมันหล่นเลยขีดครึ่งถังลงมานิดหน่อย (น้ำมันเต็มถัง 45 ลิตร)

ทีมงานของเชฟโรเลต บอกเราว่า ในการทดสอบการกินน้ำมันระหว่างรุ่น 1.4กับ 1.6 ถือว่าสูสีกัน บางช่วงความเร็ว 1.6 ประหยัดกว่า บางช่วงกินมากกว่า จึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครประหยัดกว่ากัน เหนืออื่นใด เชฟโรเลตสร้างเครื่องยนต์ 1.6 ตัวนี้มาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รู้สึกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรยังแรงไม่พอสำหรับพวกเขา เชฟโรเลตไม่ได้สร้างมาเพื่อแรงแข่งกับคู่แข่ง

สรุป อาวีโอ 1.6 ลิตร แรงขึ้น ช่วงล่างเกาะถนนกว่าเดิม และสร้างมาเพื่อลูกค้าของเชฟโรเลต ที่อยากได้การตอบสนองซึ่งทันใจมากกว่ารุ่น 1.4 ลิตร กับราคา 6.44 แสนถึง 7.09 แสน คงจะตัดสินใจไม่ยากสำหรับสาวกโบว์ไทด์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์/www.manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น