25 มกราคม 2553

ฮอนด้างัดสารพัดวิธีปูพรมแข่งเดือดเก๋งเล็ก

ฮอนด้างัดสารพัดวิธีปูพรมแข่งเดือดเก๋งเล็ก
ฮอนด้าแก้มปริหลังยอดขายปีที่ผ่านมาทะลุเป้า ขายสูงถึง 9.34 หมื่นคัน ส่วนปีนี้ขอรักษายอดเท่าปีก่อน ชี้เทรนด์ตลาดรถเล็กแข่งขันสนุกหลังมีผู้เล่นลงสู้ศึกเพียบ

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของฮอนด้าในรอบปีที่ผ่านมาว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในแง่ของยอดขายเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จาก 90,000 คัน เป็น 93,409 คัน และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 17% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากตลาดรถยนต์โดยรวมเริ่มฟื้นและมีสภาพดีขึ้นจากเมื่อ ช่วงต้นปี

ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยที่น่ากังวลมาส่งผลกระทบต่อการ ตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ส่วนปีนี้หากไม่มีปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมมากระทบต่อการตัดสินใจซื้อ ก็เชื่อว่า "ฮอนด้า" จะมียอดขายเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมาคือกว่า 9 หมื่นคัน และคาดว่าทั้งปีจะมียอดการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.4 ล้านคัน ขณะที่ยอดการจำหน่ายนั้นประเมินไม่แตกต่างจากค่ายรถยนต์รายอื่นที่คาดว่าปี นี้ยอดขายของตลาดรถยนต์โดยรวมน่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มอีก 10% จากปีก่อน

สาเหตุที่ฮอนด้าตั้งเป้ายอดขายของปีนี้ไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้านั้น เป็นผลเนื่องมาจากในกลุ่มของรถยนต์นั่งปัจจุบันได้มีค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ให้ความสนใจเข้ามาทำตลาดในส่วนของรถยนต์นั่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลางและขนาดเล็ก (C-CAR และ B-CAR) ส่งผลให้เบื้องต้นฮอนด้าขอตั้งเป้ารักษายอดการจำหน่ายไว้เทียบเท่ากับปีที่ ผ่านมาไว้ก่อน

ทั้งนี้คาดว่าการแข่งขันในตลาดรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทน่าจะมีความคึกคักค่อนข้างมาก และฮอนด้ามองว่าเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นสิ่งที่บริษัทจะต้องทำและให้น้ำหนักเป็นพิเศษคือการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ ชิด ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่าย การดูแลด้านงานหลังการขาย ฯลฯ เพื่อรักษาลูกค้าและสร้างความประทับใจแบรนด์ฮอนด้าไว้อย่างต่อเนื่อง

"ปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จเกินคาด เราประกาศปรับเป้าหมายการขาย 2-3 รอบ และท้ายที่สุดเราคาดว่ายอดขายน่าจะอยู่ที่ระดับ 9 หมื่นคัน แต่ผลจากตัวเลขสิ้นปีปรากฏว่าเราได้รับความไว้วางไว้และมียอดขายมากกว่า 9.3 หมื่นคัน ซึ่งเป็นผลจากรถยนต์ที่เราส่งออกตลาดทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็นแจ๊ซ, ซีวิค, ซีอาร์-วี, แอคคอร์ด หรือแม้แต่ "ฟรีด" ก็มีตัวเลขที่ค่อนข้างดีทีเดียว" นายพิทักษ์กล่าว

ส่วนกรณีการตีกลับการยืนขอภาษีรถยนต์ไฮบริดของ รัฐบาลในช่วงที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าฮอนด้าเข้าใจถึงเจตนาของคนที่ต้องการผลักดันเรื่องนี้เข้าไปว่า ต้อง การให้ภาครัฐสนับสนุน แต่สาเหตุที่รัฐบาลให้นำกลับมาพิจารณาใหม่นั้นก็ถือว่าเป็นเหตุผลที่รับฟัง และเข้าใจได้ ตอนนี้คงจะต้องรอดูตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนดมาว่าภายใน 1 เดือนเรื่องดังกล่าวจะต้องได้ข้อสรุปออกมาเป็นอย่างไร

สำหรับฮอนด้าเองนั้นมองว่า รถยนต์ไฮบริดถือเป็นพลังงานทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ ไทยที่เราควรจะต้องสนับสนุน แต่ทั้งนี้รัฐบาลเองก็ควรจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบเพื่อไม่ให้ เกิดผลกระทบกับรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ด้วย

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น