21 มกราคม 2553

‘ฮุนได’รีบตีเหล็กร้อนโดดฟัดเอสยูวี-เก๋งเล็ก

ค่ายรถแดนกิมจิ “ฮุนได” ฮึกเหิม หลังกวาดยอดขายในปีวัวบ้าเพิ่มเกือบเท่าตัว ปีเสือโหยมองไกลถึงหลัก 3,000 คัน จากความเชื่อมั่นลูกค้าเริ่มให้ความไว้วางใจมากขึ้น พร้อมกับเน้นสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ คุณภาพการบริการ และขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม ที่สำคัญปี 2553 เตรียมสยายปีกรุกตลาดรถยนต์ไทยอีกครั้ง ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายให้ลูกค้าเลือก เผยกำลังเจรจาบริษัทแม่ที่เกาหลี ขอนำเข้าคอมแพ็กต์เอสยูวี “ฮุนได ทูซอน ไอเอ็กซ์” เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 166 แรงม้า มาท้าชนกับคู่แข่ง “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” และ “ฟอร์ด เอสเคป” แม้ราคาจะสูงกว่า เพราะเป็นรถนำเข้าจากเกาหลี แต่คุ้มค่าแน่กับอุปกรณ์ที่ให้มาเหนือกว่าคู่แข่ง พร้อมกันนี้รีบโดดเกาะกระแสรถเล็กแรง เล็งนำเข้า “ฮุนได ไอ10” จากมาเลเซีย ที่ขณะนี้กำลังหาข้อสรุปกันอยู่ เพื่อให้ได้สิทธิภาษีอาฟต้า 0% คาดปีนี้ได้ร่วมศึกสมรภูมิตลาดเล็กแน่นอน


ตลาดรถยนต์ในปี 2552 ที่ผ่านมา โดนพิษเศรษฐกิจกระหน่ำซะจนยอดขายร่วงหล่นกันเป็นแถว มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ที่ยังรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ และหนึ่งในนั้นก็มี “ฮุนได” ที่ไม่เพียงดันตัวเลขให้อยู่ในแดนบวกได้ และยังสามารถทำยอดขายมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้เสียอีก นี่จึงยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับค่ายรถจากแดนกิมจิรายนี้ โดยเฉพาะปี 2553 หรือปีเสือนี้ ที่ฮุนไดเริ่มจะสยายปีกกลับมาลุยสมรภูมิตลาดรถยนต์ไทยอีกครั้ง

โดยยอดขายรถยนต์ของฮุนไดในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณกว่า 1,700 คัน ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้เมื่อต้นปี 1,400 คัน และต่อมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะขยับเป็น 1,500 คัน แต่สุดท้ายสามารถปิดตัวเลขได้มากกว่าเป้าถึง 200 คัน และทำให้ในปีเสือนี้ฮุนไดเริ่มมองตัวเลขยอดขายโดดไปที่ 2,500-3,000 คันแล้ว

หากจะว่าไปนับเป็นการพลิกกลับมาได้เร็วพอสมควร แม้ในช่วงแรกของการหวนคืนสู่สังเวียนไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ของฮุนได มอเตอร์ ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มโซจิตสึ บริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่จากญี่ปุ่น จะออกอาการเป๋พอสมควร เพราะสินค้าธง “ฮุนได โซนาต้า” ที่ลงทุนขึ้นไลน์ประกอบในไทย รวมถึงรถรุ่นอื่นๆ ที่นำเข้ามาทำตลาด จะไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร แต่ที่สุดฮุนไดรอดตายจากการฉีกมาจับตลาดเฉพาะกลุ่ม ส่ง“ฮุนได เอช-1” รถตู้อเนกประสงค์ระดับหรูทำตลาด ส่งผลให้แบรนด์ฮุนไดได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยอีกครั้ง

“รุ่นเอช-1 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประกอบกับความเชื่อมั่นของลูกค้าเริ่มกลับมาอย่างช้าๆ จากการที่เรามีศูนย์บริการเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับเน้นคุณภาพการให้บริการ ทำให้ลูกค้าเก่าและใหม่มีความมั่นใจมากขึ้น และส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ฮุนไดในทางที่ดี จนทำให้ตัวเลขยอดขายดีขึ้นตามไปด้วย”

“โยชิซึมิ คุราตะ” ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์(ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของฮุนไดในปีที่ผ่านมา พร้อมกับบอกว่าจะยังคงเน้นสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ฮุนได ดังจะเห็นได้จากภาพยนต์โฆษณาล่าสุด ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของฮุนได ในการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และในส่วนของการขยายตัวแทนจำหน่าย จากที่มีอยู่ 16 แห่ง ก็ได้ขยายให้ครบ 20 แห่ง ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ฮุนได และมีเครือข่ายครอบคลุมเข้าไปถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น



็H1
ในส่วนของสินค้าที่จะทำตลาด ตัวหลักยังคงเป็น ฮุนได เอช-1 ซึ่งคาดว่าจะสามารถอยู่ในตลาดอีก 2 ปี โดยจะเพิ่มความสดใหม่อยู่เสมอ ด้วยการตกแต่งพิเศษอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่ได้ทำช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค

ขณะที่รุ่นฮุนได โซนาตา ยังคงจะทำตลาดด้วยรุ่นปัจจุบันต่อไป และภายหลังได้มีการติดตั้งระบบรองรับก๊าซธรรมชาติ(CNG) ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีขึ้นพอสมควร

ส่วนที่มีการเปิดตัวโซนาตาโฉมใหม่ที่ประเทศเกาหลี และสหรัฐอเมริกา แต่ในไทยยังไม่ขึ้นไลน์ประกอบ หรือนำเข้ามาทำตลาด เรื่องนี้คุราตะเคยกล่าวกับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง”ว่า ตามแผนของบริษัทแม่ที่เกาหลี จะส่งโซนาตาใหม่ทำตลาดทั่วโลกประมาณปี 2553 และกว่าจะพร้อมสำหรับการส่งชิ้นส่วนประกอบในประเทศอื่นๆ คงจะเป็นประมาณปี 2554 ซึ่งฮุนไดในประเทศไทยหวังว่า จะยังคงได้เป็นฐานการผลิตรถขนาดกลางรุ่นนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์จากแดนกิมจิรายนี้ จะไร้ทางเลือกใหม่ๆ ในปีเสือโหย 2553 เพราะจากรายงานข่าวฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทย กำลังเจรจากับบริษัทแม่ที่ประเทศเกาหลี เพื่อนำรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีรุ่นใหม่ “ฮุนได ทูซอน ไอเอ็กซ์” (TUCSON iX) เข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้ คาดเปิดตัวในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2010 ที่ไบเทค หลังจากได้มีการนำตัวต้นแบบ “ฮุนได ไอเอ็กซ์-โอนิค” มาโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ปลายปีที่ผ่านมา

TUCSON iX


ทั้งนี้ฮุนได ทูซอน ไอเอ็กซ์ เป็นเอสยูวีคอมแพ็กต์ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี และฟอร์ด เอสเคป เพิ่งเปิดตัวขายในประเทศเกาหลีเมื่อเดือนธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา และจะเริ่มส่งทำตลาดโลกในต้นปี 2553 นี้ แน่นอนหากการเจรจาสำเร็จไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่เปิดตัวจำหน่ายรถรุ่นนี้
ฮุนได ทูซอน เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 และโฉมใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ซึ่งตัวรถแชร์พื้นฐานร่วมกับเอลันทรา/i30 และเกีย สปอร์ตเทจ โดยรูปลักษณ์ของทูซอน ไอเอ็กซ์ ถูกพลิกโฉมการออกแบบจากเดิมที่เน้นเหลี่ยมๆ ทื่อๆ มาสู่เส้นสายที่มีความโค้งเว้าและสวยปราดเปรียวขึ้น
ขณะเดียวกันทูซอน ไอเอ็กซ์ ยังพกพาความสะดวกสบาย และความอเนกประสงค์มาครบครัน ทั้งเบาะนั่งทรงสปอร์ต มูนรูฟแบบพานอรามิกที่ยาวตั้งแต่เบาะหน้าไปจนถึงเบาะหลัง สตาร์ทรถด้วยปุ่มกด ช่องเสียบ USB และเชื่อมต่อกับ iPod เบาะนั่งแถวหลังซึ่งสามารถเลือกพับเก็บได้ตามความต้องการและเมื่อพับแล้วพื้นห้องโดยสารจะเป็นแบเรียบ หรือ Flat Floor เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระ
เครื่องยนต์ของทูซอนมีทั้งแบบ 2.0 และ 2.4 ลิตร แต่ที่ทำตลาดในประเทศเกาหลี เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2.0 ลิตร ทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล โดยแบบแรกมีกำลัง 166 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที และเทอร์โบดีเซล 184 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที ดังนั้นในไทยที่จะนำเข้ารถตรงจากเกาหลี จึงต้องเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 166 แรงม้า
สำหรับสนนราคาของทูซอน ไอเอ็กซ์ ฮุนไดประเทศไทยกำลังเจรจากับบริษัทแม่ให้ช่วยสนับสนุนราคาที่ดึงดูดใจลูกค้า แต่คงไปเทียบกับคู่แข่ง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ที่ประกอบในไทยไม่ได้ เพราะเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูป(CBU)ทั้งคันจากเกาหลี ที่สำคัญอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมากับทูซอน ไอเอ็กซ์ เหนือกว่ารถเอสยูวีคอมแพ็กต์ทุกรุ่นในไทยปัจจุบัน
นอกจากฮุนได ทูซอน ไอเอ็กซ์แล้ว สินค้าใหม่ที่ทางฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทย สนใจจะนำเข้ามาตอบสนองความต้องการของตลาด ที่แนวโน้มความนิยมรถเล็กเพิ่มสูงขึ้นมาก ตามที่คุราตะได้ให้ความเห็นถึงทิศทางตลาดรถยนต์ไทย และเผยว่าอาจจะนำรถเล็กเข้ามาทำตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มนี้ และจากฐานลูกค้าเก่าของฮุนไดในไทยก็นิยมใช้รถเล็ก

i10

ในปีเสือนี้โอกาสดังกล่าวน่าจะมาถึงแล้ว เพราะจากรายงานข่าวฮุนไดกำลังเจรจากับบริษัทแม่ที่ประเทศเกาหลี และฮุนไดในมาเลเซีย เพื่อนำเข้ารถยนต์ขนาดเล็ก “ฮุนได ไอ10” (i10) จากมาเลเซียที่เป็นฐานการประกอบแห่งหนึ่งของฮุนได สำหรับมาทำตลาดในไทย ภายใต้กรอบการค้าอาฟต้า(AFTA) ซึ่งได้มีการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปภายในกลุ่มประเทศอาเซียนลงเป็น 0%

ฮุนได ไอ10 นับเป็นพี่น้องร่วมสายพันธุ์กับ “เกีย พิแคนโต” เพราะพัฒนามาจากพื้นฐานเดียวกัน โดยเปิดตัวครั้งแรกในอินเดียเมือปลายปี 2550 และปีต่อมาก็ถูกส่งไปทำตลาดทั่วโลก รวมถึงอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา โดยไอ10 เป็นรถราคาประหยัดกลุ่มเอ-เซกเม้นท์ แบบของรถแฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วโลกเป็นอย่างดี

ส่วนของเครื่องยนต์ แม้จะมีทั้งขนาด 1.1 ลิตร 66 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และรุ่น 1.2 ลิตร 88 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แต่ที่ทำตลาดในมาเลเซียเป็นเครื่องยนต์ 1.1 ลิตร ดังนั้นในไทยก็คงจะต้องตามมาเลเซียที่เป็นแหล่งนำเข้ามาทำตลาด

สำหรับสนนราคาของ ฮุนได ไอ10 ที่จำหน่ายในมาเลเซียอยู่ที่ประมาณ 4.1-5.1 หมื่นริงกิตมาเลเซีย หรือคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ 4-5 แสนบาท ฉะนั้นราคาขายในไทยคงจะไม่หนีไปจากนี้ หรือไล่ๆ กับราคาปกติของ เกีย พิแคนโต ใหม่ ที่เปิดตัวขายในไทย 4.07-4.79 แสนบาท (แคมเปญพิเศษเริ่มต้น 3.98 แสนบาท)

แน่นอนหากรถยนต์ทั้งสองรุ่นเข้ามาทำตลาดในไทย ทีนี้คงจะเป็นบทพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งว่า... ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ฮุนไดแค่ไหน? หรือสุดท้ายยอดขายก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา เกิดจากแค่ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ที่นิยมรถตู้อเนกประสงค์แบบ “ฮุนได เอช-1” เท่านั้น!


ที่มา:โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น