ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้ามีรถใหม่ที่จ่อคิวรอเปิดตัวออกมาสู่ตลาด และนี่คือ โครงการที่ยืนยันว่าอยู่ระหว่างการแต่งตัวรับความพร้อมในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
เริ่มจากค่ายรถดังอย่าง โตโยต้า ที่มีโครงการพัฒนารถใหม่ซึ่งดำเนินการอยู่ คาดว่าจะเห็นได้ในปี 2012 น่าจะเป็น IMV2 หรือปิกอัพ วีโก้ โฉมใหม่ที่จะมาแทน IMV อีกเกือบ 3 ปี น่าจะได้เห็นถ้าไม่เจอโรคเลื่อนเสียก่อน
ฮอนด้าเจ้าตลาดรถเก๋ง มุ่งมั่นกับแพลตฟอร์มรถเล็กที่มีตำแหน่งต่ำกว่า ฮอนด้า แจ๊ซ นั่นคือ รถรหัส 2 CV รถที่มีแผนผลิตในอินเดียและไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นผลิตในปี 2012 ภายใต้โครงการอีโค คาร์ ซึ่งเสียภาษีสรรพสามิต 17%
ตามข่าวอย่างไม่เป็นทางการ ฮอนด้ากำหนดแผนให้อินเดีย เป็นผู้นำการพัฒนารถตัวนี้ ในขณะที่ญี่ปุ่นเป็นศูนย์กลางการพัฒนา แจ๊ซ ส่วนแอคคอร์ด ซีวิค และซิตี้ ยกให้เป็นฐานผลิตในไทย รถอีกคันที่ต้องได้เห็น คือ 2HC หรือซีวิค โฉมใหม่ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะใช้กำหนดการเดิมในการแนะนำตัวออกสู่ตลาดหรือไม่ ค่ายญี่ปุ่นที่ชัดเจนอีกค่าย คือ ซูซูกิ ค่ายรถที่ประกาศแผนเปิดตัวรถใหม่ ด้วยอีโคคาร์ ในเมืองไทยปี 2012 ซึ่งถือว่าช้ากว่าแผนเดิมเยอะมากทีเดียว แต่ก็ยืนยันว่า ซูซูกิ ลุยตลาดรถเอ-เซ็กเมนท์ เต็มตัวแน่นอน เช่นเดียวกับ นิสสัน ที่มีแผนว่าในปี 2010 รถอีโคคาร์ จะเปิดตัวและเป็นตัวแรกของประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมรถยนต์ไทย ที่ส่งเสริมให้ผู้ผลิตลงทุนในตลาดเซ็กเมนท์ใหม่นี้ได้สำเร็จ
ทางด้าน อีซูซุ ยังคงมีงานหนักกับการดันยอดปิกอัพ ที่จะมาทดแทน I 190 (ดีแมคซ์) ซึ่งรหัสใหม่เรียกว่า RT50 พัฒนาขึ้นโดยอีซูซุ เพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ อีซูซุน่าจะออกมาปี 2011 จากนั้นก็มีรถแบบพีพีวี ที่มาแทนมิว-7 ภายใต้แลตฟอร์มของ RT50
ไม่เพียงแต่เรื่องของการพัฒนารถใหม่เท่านั้น แต่ว่าในอนาคตถือว่าเป็นเรื่องท้าทาย เมื่อแนวโน้มน้ำมันดีเซลแพงขึ้น ในขณะที่ตลาดหันไปทางรถเก๋งมากขึ้น ทำให้ยอดพุ่งหลายเดือนติดต่อกัน เจ้าตลาดปิกอัพจะแก้เกมอย่างไรเป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตาม
ทางฝั่งของ เชฟโรเลต หลังจากได้เงินกู้มาลงทุน เชฟโรเลต ก็คึกคักขึ้น มีรถใหม่เข้าคิวเปิดตัว จากนี้ไปเราจะเห็นโคโลราโดโฉมใหม่ (GMI700) ที่จะมาแทนตัวเก่า โดยพร้อมจะเปิดตัวในปี 2010 จากนั้น จะมีรถเก๋ง คอมแพคท์ ครูส (J300) ที่ชะลอการเปิดตัวมาพักใหญ่ มาต่อกรกับโคโรลล่าและซีวิคในราวต้นปี 2011 ตามมาด้วย อาวีโอ ใหม่ (T300) และปี 2012 กับ แคปติว่า (C140)
โคโลราโด ไม่ได้อิงภาพกับรถอีซูซุอีกต่อไป ต่างคนต่างพัฒนา ตัวถัง เครื่องยนต์ (เครื่องรุ่นใหม่จากวีเอ็ม โมโตริ อิตาลี) แยกกันชัดเจน ยกเว้นการจัดซื้อและชิ้นส่วนที่ใช้ร่วมกันบางรายการ ที่อาจจะมีร่วมกันกับ อีซูซุ เหตุผลเพื่อประหยัดต้นทุนในการผลิต
ค่ายฟอร์ด มีรถรหัสใหม่เอี่ยม ปีละรุ่น เริ่มจาก ฟอร์ด เฟียสต้า (B299) ในต้นปี 2010 เฟียสต้า เป็นรถไฮไลต์ของปีหน้าก็ว่าได้ ฟอร์ด วางเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,400 และ 1,600 ซีซี พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งฟอร์ดตั้งใจลุยกับแจ๊ซ เจ้าตลาด รถกลุ่มนี้ปี หน้าแข่งสนุกแน่นอน
จากนั้นอีก 1 ปี (2011) จะเป็นรถ ปิกอัพ (T6) ที่มาทดแทนเรนเจอร์รุ่นเก่า ซึ่งมีชื่อทางการค้า คือ เรนเจอร์ แม็กซ์ ส่วนโมเดล อื่นๆ ที่ขายไม่เยอะอย่าง เอเวอร์เรส ก็จะทยอยตามมาหลังจากที่ T6 ออกสู่ตลาด คาดว่าจะเป็นปี 2012
มาสด้า มียอดจองแรงข้ามปี แทบจะไม่ต้องคิดหาโมเดลใหม่ แต่มาสด้าก็มีทีเด็ด เริ่มด้วย มาสด้า 3 ที่จะมาทดแทน มาสด้า 3 เดิม ในปี 2010 จากนั้น มาสด้า 2 แบบซีดานก็จะออกสู่ตลาดในช่วงปลายปี 2010 หรือต้น 2011 ตามมาด้วย ปิกอัพ ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ T6 ที่จะมาแทนไฟเตอร์ ที่อายุอานามยาวนานทีเดียว
มิตซูบิชิ มีรถใหม่จ่อคิว คือ อีโคคาร์ ซึ่งปี 2014 น่าจะได้เห็น เพราะว่าเปลี่ยนแนวการพัฒนารถจากเดิมไปมาก หากว่าสามารถต่อรองกับรัฐบาลสำเร็จในช่วงไม่มีรถใหม่ ขณะที่ปาเจโร สปอร์ต ก็จะมีการไมเนอร์เชนจ์อีกรอบ เพื่อความสดใหม่
รถยนต์ใหม่ค่ายยุโรป ไม่ค่อยมีฐานในการผลิตในเมืองไทย แต่ก็มีความเคลื่อนไหว เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปี 2010 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ โดยรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่นทั่วโลกตั้งแต่ เอ-คลาส ไปจนถึง เอส-คลาส จะผลิตโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ที่เรียกว่า "BlueEFFICIENCY" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ คิดค้นขึ้น เพื่อลดมลพิษและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ อี-คลาส ในต้นปี 2010
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของตลาดรถใหม่ในอนาคต ที่เปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เป็นไปได้ว่าเมื่อถึงเวลาค่ายรถ เหล่านี้อาจจะเปลี่ยนแปลงแผน ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ใครวางไว้อย่างไร
แต่ที่แน่ๆ ปี 2010 เป็นต้นไป รถใหม่ๆ ที่ไม่เคยเปิดตัวที่ใดในโลกจะเลือกเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทยมากมาย
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น