24 กุมภาพันธ์ 2553

โตโยต้าทิ้งไพ่ใบสุดท้าย จับอัลติสแต่งซิ่งชนซีวิค

โตโยต้าทิ้งไพ่ใบสุดท้าย จับอัลติสแต่งซิ่งชนซีวิค
โตโยต้าเปิดเกมชิงตลาดคืนจากฮอนด้าตั้งแต่ต้นปี ส่งอัลติส รุ่นแต่งพิเศษเสริมภาพลักษณ์รถยนต์นั่งสปอร์ตขนาดคอมแพ็กต์คาร์ หลังจากปีที่ผ่านมาส่งอัลติส รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรสกัดยอดขายคู่แข่งแต่ไม่เป็นผล ทำให้เซ็กเมนท์นี้ถูกซีวิคชิงส่วนแบ่งตลาดขึ้นนำ คาดโตโยต้าหวังใช้เป็นรุ่นสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตสะท้อนไปยังอัลติสรุ่นอื่นๆ และถือเป็นจุดขายที่โดดเด่นของคู่แข่ง

แม้จะสามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ทั้งปิกอัพ และรถยนต์นั่งมาหลายปีรวมทั้งปีที่ผ่านมา แต่การเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งในเซ็กเมนท์รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือคอมแพ็กต์คาร์ จนตกเป็นผู้เล่นอันดับ 2 เป็นส่วนหนึ่งทำให้โตโยต้า ต้องเร่งปรับเสริมภาพลักษณ์ตัวผลิตภัณฑ์ให้เทียบชั้น หรือเหนือกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะเรื่องรูปทรงความสปอร์ต

ปีที่ผ่านมาโตโยต้า อัลติสทำยอดขายได้ 25,374 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 34.1% แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดในเซ็กเมนท์นี้ได้ เพราะความร้อนแรงของ ฮอนด้า ซีวิค ทำให้มียอดขายได้ 29,149 คัน ชิงส่วนแบ่งตลาดไป 39.2% ขณะที่เซ็กเมนท์อื่นๆ ของกลุ่มรถยนต์นั่ง โตโยต้า มียอดขายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า วีออส ในเซ็กเมนท์รถยนต์นั่งขนาดซับคอมแพ็กต์ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 40.7% หรือ โตโยต้า คัมรี ในเซ็กเมนท์รถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่มีส่วนแบ่งตลาด 48.4%

โตโยต้า สปอร์ตติโว จึงเป็นยุทธ์ศาสตร์ที่เหลืออยู่ของโตโยต้า ในการชิงส่วนแบ่งตลาดคืนจากฮอนด้า ซีวิค ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา เพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถ เพื่อให้ดูเป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่นตอนสนองความต้องการกลุ่มที่ชื่นชอบความรถยนต์ที่มีหน้าตา รูปทรงสปอร์ต ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเลือกของกลุ่มเป้าหมายในเซ็กเมนท์นี้

รถยนต์รุ่นนี้มีการเพิ่มชุดแต่งรอบคัน ตั้งแต่สเกิร์ตกันชนหน้า ด้านข้าง กันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง พร้อมป้ายสัญลักษณ์ "TRD Sportivo" ที่กระจังหน้าและฝาท้าย โคมไฟหน้า แบบ Smoke Chrome ล้อแม็กซ์ TRD ขนาด 16 นิ้ว สีเทาดำ ส่วนโคมไฟท้าย LED แบบเลนส์ใส และปลายท่อไอเสีย สเตนเลส ภายในเน้นสปอร์ต ด้วยโทนสีดำทั้งเบาะนั่ง แผงประตู พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนังแผงคอนโซลหน้าสีเมทัลลิก พร้อมลายหินอ่อนสีดำ เป็นรุ่นพิเศษที่มีทั้งเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตร

โตโยต้า อัลติสนั้นเปิดตัวหลังคู่แข่งประมาณ 1 ปี แต่ด้วยรูปทรงเน้นความสะดวกสบายของห้องโดยสาร และเป็นรถยนต์ที่ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้อัลติส โมเดลนี้ในเมืองไทย อาจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น หรือวัยทำงานได้ไม่ตรงใจเท่ากับฮอนด้า ซีวิค ที่เน้นความปราดเปรียบ และรูปทรงโฉบเฉี่ยวกว่า

อัลติส เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่นคือ 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร ขณะที่ซีวิค มี 2 รุ่นเครื่องยนต์เช่นกัน แต่เริ่มด้วยขนาด 1.8 และ 2.0 ลิตร ในขณะที่ระดับราคาของรุ่น 1.6 ของโตโยต้า และ 1.8 ลิตรของคู่แข่ง ห่างกันไม่มากนัก ส่งผลให้ลูกค้าส่วนใหญ่หันไปเลือกรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงกว่าคือ 1.8 ลิตร ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรเมื่อเทียบราคากับรุ่น 1.8 ของโตโยต้าแล้ว ยิ่งเสียเปรียบ

จึงทำให้โตโยต้า ส่งอัลติสรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ออกสู่ตลาดในปีที่ผ่านมา พร้อมกับปรับลดอุปกรณ์บางส่วนในรุ่น 1.8 ลิตรลงเพื่อกดราคาลงมาให้เทียบกับรุ่น 1.8 ลิตรของคู่แข่ง แม้สมรรถนะเครื่องยนต์ของอัลติส 2.0 ลิตรจะเทียบชั่นกับคู่แข่งได้สมศักดิ์ศรี รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในการเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ต แต่ในปีที่ผ่านมา ยอดขายของคู่แข่งแสดงให้เห็นว่า สมรรถนะอัลติส 2.0 ลิตร ไม่ใช่จุดเปลี่ยนของเซ็กเมนท์นี้

รูปร่างและหน้าตาที่สื่อถึงความสปอร์ต และปราดเปรียวของซีวิค ไม่รับรวมการเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่ง เสริมความสปอร์ตภายใต้แบรนด์ โมดูโร่ ยังสามารถชนะใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตลาดเซ็กเมนท์นี้ได้ ยังไม่รวมมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ที่กำลังเริ่มทำคะแนนตีตื้น ทั้งในเรื่องรูปร่างหน้าเน้นความสปอร์ต ครอบคลุมถึงความสะดวกสบายของห้องโดยสาร และมาสด้า 3 ซึ่งทำยอดขายคงที่ แม้จะอยู่ในช่วงปลายโมเดล

ดังนั้นภาระกิจของโตโยต้าอัลติส สปอร์ตติโว ในครั้งนี้คือ การแสดงให้กลุ่มลูกค้ามองเห็นว่า อัลติส สามารถปรับแต่งเพื่อให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบความสปอร์ตได้เช่นกัน และยังเป็นการสื่อภาพลักษณ์ความสปอร์ตไปยังอัลติสในทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่น 1.6 ลิตรขึ้นไป

การส่งอัลติส สปอร์ตรีโว เพื่อขับเคี่ยวกับคู่แข่งในครั้งนี้ ในด้านยอดขายอาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ โดยมีการผลิตเพียง 2,000 คัน แต่ก็เป็นจุดยุทธ์ศาสตร์สำคัญในการขยายตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็กต์ของโตโยต้า จะเห็นว่าที่ผ่านโตโยต้า อัลติส เป็นรถยนต์ที่รุกเข้าไปตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่รุ่นเครื่องยนต์ 1.6, 1.8 และ 2.0 ลิตร รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 NGV จนมาถึงรุ่นล่าสุดสปอร์ตติโว ในครั้งนี้

ทำให้โตโยต้า อัลติส เป็นรถยนต์นั่งในเซ็กเมนท์คอมแพ็กต์คาร์ ที่มีความหลากหลายด้านตัวผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ พลังงานทางเลือก สมรรถนะ และภาพลักษณ์ความสปอร์ตที่โดดเด่น ปลายปีนี้จึงเป็นการเดิมพันตำแหน่งผู้นำเซ็กเมนท์ ด้วยไพ่ทุกใบบนมือของโตโยต้า และที่สำคัญการชิงตลาดท่ามกลางข่าวการรีคอลรถยนต์หลายล้านคันในต่างประเทศ ที่อาจกระทบมาถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์โตโยต้าในเมืองไทยอีกด้วย

ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewnews.aspx?newsID=9530000024298

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น