16 กุมภาพันธ์ 2553

Volvo S60 : ดูเต็มตากับโฉมใหม่ซีดานมาดสปอร์ต


Volvo S60 : ดูเต็มตากับโฉมใหม่ซีดานมาดสปอร์ต
ยั่วใจบรรดาแฟนๆ ของวอลโว่มาตั้งแต่ปลายปีทั้งภาพรูปลักษณ์ภายนอกและวีดีโอสำหรับโปรโมท ในที่สุดวอลโว่ก็จัดการเผยโฉมเจนเนอเรชันที่ 2 ของ S60 ออกมาแล้ว เพียบพร้อมด้วยความสปอร์ตรอบคัน และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย

S60 ใหม่จะเข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่นเดิมที่มีอายุอานามแก่พอสมควรเพราะขายกันมาตั้งแต่ปี 2000 โดยเป็นการขยับเข้ามาทำตลาดแทนที่สายพันธุ์ 850 เดิม และในแต่ละปีมียอดขายเฉลี่ย 90,000 คันต่อปีจากตลาดทั่วโลกโดยที่ปี 2002 เป็นปีที่มียอดขายสูงสุด คือ 110,000 คัน

สำหรับ S60 ใหม่ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจากผลผลิตต้นแบบที่เปิดตัวในปี 2008 พร้อมกับรูปลักษณ์ที่พลิกโฉมมาสู่ความสปอร์ตในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะรูปลักษณ์ด้านหน้าซึ่งดูแปลกตาด้วยการผสมผสานระหว่างเส้นสายที่เฉียบคมกับกระจังหน้าทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งทีมออกแบบของวอลโว่เรียกสไตล์การออกแบบที่เห็นนี้ว่า Racetrack Design ส่วนด้านท้ายออกแบบให้แนวเสา C-Pillar มีความลาดเท เพื่อความโฉบเฉี่ยวและดูคล้ายกับรถสปอร์ต

ในด้านความปลอดภัยถือเป็นหัวใจหลักของวอลโว่ และใน S60 ใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ติดตั้งเข้ามาก็มีทั้ง DAC-Driver Alert Control ซึ่งเป็นระบบตรวจสภาพของผู้ขับ หากมีสัญญาณของอาการง่วงนอนหรือหลับในปรากฏขึ้นมาก็จะแจ้งเตือน, BLIS-Blind Spot Information System ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนถึงสิ่งกีดขวางที่อาจจะอยู่ในมุมอับซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจกมองข้างหรือมองหลัง เวลาที่ผู้ขับกำลังจะเปลี่ยนช่องทาง

และที่ใหม่ล่าสุดคือ Pedestrian Detection with Full Auto Brake system ตรวจจับคนเดินถนน ที่อาจจะเดินลงมาบนถนนแบบกะทันหัน ซึ่งระบบนี้จะตรวจจับโดยใช้เรดาร์บนกระจังหน้าทำงานร่วมกับกล้องวีดีโอที่ติดตั้งอยู่บนกระจกมองหลังในรถยนต์พร้อมกล่องสมองกลเพื่อประมวลผล โดยจะทำงานด้วยการเบรกแทนผู้ขับซึ่งอาจจะมีปฏิกิริยาตอบสนองไม่ทัน ในระดับความเร็วไม่เกิน 21 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 33.7 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เป้าหมายของระบบนี้คือ การลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บอย่างหนักด้วยการลดความเร็วก่อนการชนให้เหลือน้อยที่สุดเป็นหลัก เพราะจากการวิจัยของวอลโว่พบว่าการลดความเร็วในการถูกชนจาก 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาอยู่ที่ 24 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้ 20% หรือ 80% สำหรับบางเคสเลยทีเดียว

เครื่องยนต์ถือเป็นอีกจุดที่มีการเปลี่ยนแปลง และวอลโว่ก็เอาใจนักขับด้วยทางเลือกแบบเทอร์โบล้วนๆ เช่นกัน เริ่มจากเบนซินบล็อกใหม่ในตระกูล GTDi ซึ่งเป็นเทอร์โบแบบไดเร็กต์อินเจ๊กชันที่แตกยอดมาจากเทคโนโลยี EcoBoost ของฟอร์ดและเป็นแบบ 4 สูบเรียงล้วนๆ เริ่มจากรหัส T3 และ T4 แบบ 1,600 ซีซี มีกำลังสูงสุด 150 และ 180 แรงม้าตามลำดับ และ 2,000 ซีซีในรหัส T5 กับกำลังขับเคลื่อน 240 แรงม้า และตัวแรง T6 แบบ 6 สูบเรียงเทอร์โบคู่ 3,000 ซีซี 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 44.8 กก.-ม. พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.5 วินาที และความเร็วปลาย 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ทางด้านเครื่องยนต์ดีเซลเริ่มกับรหัสสีเขียวอย่าง DRIVe เป็นแบบ 4 สูบ 1,600 ซีซี 115 แรงม้า ซึ่งมีอัตราความสิ้นเปลืองต่ำมากเพียง 26 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับ 115 กรัม/กิโลเมตร ตามด้วยรหัส D3 เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี 163 แรงม้า และเมื่อติดตั้งเทอร์โบคู่ก็จะเป็นรหัส D5 ซึ่งมีกำลัง 205 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 42.8 กก.-ม. มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติเท่ากันที่ 7.8 วินาที

แฟนๆ ของวอลโว่เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย เพราะหลังจากเปิดตัวในเจนีวา มอเตอร์โชว์แล้ว S60 จะเริ่มขายในยุโรปประมาณกลางปีนี้ ส่วนบ้านเราแนวโน้มน่าจะมี เพราะ S60 รุ่นเดิมก็มีขายและได้รับความนิยมพอสมควรเลยทีเดียว


ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000021510

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น