11 กุมภาพันธ์ 2553

โตโยต้าวีโก้ น้ำมันถังเดียว เชียงใหม่-ภูเก็ต สบาย ๆ

โตโยต้าวีโก้ น้ำมันถังเดียว เชียงใหม่-ภูเก็ต สบาย ๆ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดทดสอบสมรรถนะประหยัดน้ำมัน ไฮลักซ์ วีโก้ ระยะทาง 1,565 กิโลเมตร น้ำมัน 1 ถัง วิ่งจากดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ถึงแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต กิจกรรมท้าทายสมรรถนะประหยัดน้ำมันในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการตอกย้ำความเป็นรถกระบะประหยัดน้ำมัน ที่ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งจากลูกค้า สื่อมวลชนจากทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมีระยะเวลาในการเดินทางตั้งแต่วันที่ 25-28 มกราคม 2553 ผ่านทางหลวงแผ่นดินสายสำคัญและจังหวัดสำคัญที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ของภูมิภาค การท้าทายสมรรถนะประหยัดน้ำมันในครั้งนี้มีขบวนรถโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ เข้าร่วมพิสูจน์ความประหยัดกันทั้งหมด 5 คัน ประกอบด้วยลูกค้าแชมป์ขับประหยัดน้ำมันจากการจัดกิจกรรมโรดโชว์ ทั่วทุกภาคของประเทศตลอดปี 2552 และสื่อมวลชนที่มีสถิติที่ดีที่สุดจากขับทดสอบสมรรถนะของโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ โดยมี รศ.ดร.ทวีป ชัยสมภพ รองผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมสื่อมวลชนร่วมเดินทางไปเป็นสักขีพยาน เพื่อยืนยันความเป็นสุดยอดปิกอัพประหยัดน้ำมัน

ขบวนท้าทายสมรรถนะประหยัดน้ำมัน ไฮลักซ์ วีโก้ ทั้ง 5 คัน ประกอบด้วย คันที่ 1 นายพิทักษ์ ดีเสมอ และ นายภูวนาท ประไพรัตน์ จากชมรม Club-D คันที่ 2 รถของทีมสื่อมวลชน แบ่งออกเป็น 4 ช่วง (รวมทั้งหมด 8 คน/ช่วงละ 2 คน) ช่วงที่ 1 นายสราวุธ คำศรี จากนิตยสารตลาดรถ และ นายเกียรติสยาม เกิดทรัพย์ จากนิตยสารแหล่งรถยนต์ ช่วงที่ 2 นายพุฒิพัฒน์ สุริยะธัญสิริ จาก นสพ.ผู้จัดการรายสัปดาห์ และ นายวิโรจน์ ธัญญหาญ รายการวิทยุ Showroom on air FM 89.5 ช่วงที่ 3 นายอภิชัย ไกรนุกูล จากสยามรัฐรายสัปดาห์ และ นายณัฐเวช ยอดแสง จากนิตยสาร 4 Wheels ช่วงที่ 4 นายบุญมา นาวาทอง จากรายการวิทยุ Car for life FM 89.5

นาย จีระศักดิ์ สุวรรณพืช จากรายการวิทยุ Car for life FM 89.5 คันที่ 3 คุณจงกลณี สถิรอษวนันท์ และ คุณปาณิสส์นันท์ อภิภัทรกิตติ จากรายการผจญภัยไร้พรมแดน คันที่ 4 นายอิทธิ์ ตรีศักดิ์ และ นายจตุพล ธารเหลืองทอง แชมป์ประหยัดน้ำมันลูกค้าวีโก้ คันที่ 5 นายพัฒณ์ระพี ศรีจันทร์ดร นายพงศ์ธร กษีรรัตน์ และ นายประสิทธิ์ ชัยรังษี แชมป์ประหยัดน้ำมันลูกค้าวีโก้

วันที่ 1 เชียงใหม่-นครสวรรค์ 461 กิโลเมตร
ไฮลักซ์ วีโก้ ทั้ง 5 คัน เริ่มต้นการเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีจุดพักการเดินทางช่วงละประมาณ 100 ก.ม. โดยวันแรก ของการเดินทาง มีระยะทางรวมทั้งหมด 461.2 ก.ม. ซึ่งการ ขับในช่วงแรกนั้นต้องพยายามเน้นความประหยัด เพื่อทำแต้มตุนไว้ให้ผู้ขับช่วงต่อ ๆ ไปให้ดีที่สุด

วันที่สอง เป็นการขับจากจังหวัดนครสวรรค์ผ่านกรุงเทพฯต่อไปยังเส้นทางสายใต้จนถึงอำเภอ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวม 458 กิโลเมตร การขับประหยัดน้ำมันในช่วงที่ 2 นี้ สิ้นสุดในช่วงเวลา 4 โมงครึ่งของวันที่ 26 มกราคม ที่อำเภอปราณบุรี เลขไมล์ระบุว่า รถไฮลักซ์ วีโก้ ได้วิ่งมาแล้วกว่า 900 กิโลเมตร จากเชิงดอยสุเทพ แต่เข็มน้ำมันกลับตกลงมา 1 ช่อง

เช้าวันที่ 27 มกราคม 2553 เป็นวันที่ 3 ของการเดินทาง รถทั้ง 5 คันพร้อมกันที่จุดสตาร์ต ณ โชว์รูมโตโยต้า ปราณบุรี ช่วงเป็นช่วงเปิดประตูสู่เมืองใต้ เริ่มมีอุปสรรคจากรถขนส่งและรถที่สัญจร ไปมาบนถนนมากขึ้นบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านทับสะแก ต้องมาเจอกับงานซ่อมผิวถนน มีการแบ่งช่องจราจร จึงต้องลดความเร็วและการใช้เบรกในช่วงนี้หลายครั้ง ผ่านศูนย์บริการทางหลวงเขาโพธิ์ มีเส้นทางขึ้นและลงเขาเป็นช่วง ๆ ซึ่งต้องงัดเทคนิคการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ เพื่อให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้อย มาใช้การขับแบบจำเป็นต้องอาศัยจังหวะการเร่งแซงบางช่วง เพราะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งช้าบนถนนค่อนข้างมาก ขึ้น/ลงเขา ช่วงศาลพ่อตาหินช้าง รถแต่ละคันเริ่มทิ้งระยะห่างกันออกไปพอสมควร ด้วยสภาพการจราจรที่มีรถบรรทุกที่ค่อนข้างเยอะ และสี่แยกสลับกับไฟแดงตลอดทางจาก อ.ปะทิวและท่าแซะ ขบวนรถมาถึงที่หมายเวลาประมาณ 16.00 น. รวมเวลาการขับ 8 ชั่วโมง นักขับประหยัดน้ำมันถึง CO-OP สุราษฎร์ธานี ทุกคนต่างมีความมั่นใจกับปริมาณน้ำมันที่เหลือเพียงพอสำหรับการเดินทางไป จ.ภูเก็ต

วัน ที่ 4 สู่จุดหมายปลายทางที่แหลมพรหมเทพ เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต 251 กิโลเมตร ถนนช่วงนี้เป็น 2 เลน และมีรถบรรทุกเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ร่วมใช้ทางอยู่มากมาย ที่สำคัญที่สุดเป็นทางคดโค้งขึ้นลงภูเขา จะไม่สามารถควบคุมความเร็วคงที่ได้แบบ ต่อเนื่อง ดังนั้น การขับในช่วงนี้ต้องประเมินทางขึ้นลงภูเขา และการจราจรที่คับคั่งของรถบรรทุก การใช้คันเร่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์สูงอย่างรวดเร็ว การใช้เกียร์ 5 อย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถทำได้ในช่วงนี้ การใช้เกียร์ 3 และเกียร์ 4 ต้องสลับไปมาตลอด เพื่อไม่ให้ลากรอบเครื่องยนต์สูงเกินไป ช่วงเปลี่ยนเกียร์อยู่ที่ประมาณ 2,000 รอบ/นาที และด้วยพลังของเทอร์โบแปรผันเข้ามาช่วยอัดอากาศตั้งแต่ช่วง 1,600 รอบ จึงทำให้การเร่งแซงขึ้นภูเขา และแซงรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นไปอย่างง่ายดาย

การขับในช่วงนี้จึงไม่ยากเหมือนที่ประเมินไว้ตั้งแต่ตอนแรก แรงม้าขนาด 144 ตัวที่มากขึ้น แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตรที่รอบต่ำมาก แรงบิดที่ต่อเนื่อง สามารถลากยาวจนถึงรอบสูงได้อย่างสบาย ส่งผลให้การสิ้นเปลื้องน้ำมันน้อยมาก และต้องยอมรับว่า VN TURBO มีส่วนช่วยเป็นอย่างดีคืออัตราเร่งช่วงตีนต้นสามารถเรียกแรงบิดและม้าออกมา ใช้งานไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร แต่สิ่งที่ต่างชัดเจนคือความประหยัด ที่ควบคุมรถบนภูเขาตลอดเวลา ควรจะต้องกินน้ำมันมากกว่านี้...แต่ครั้งนี้เข็มน้ำมันขยับลงไปเพียงนิด เดียวเท่านั้น เชื่อว่าหากปลายทางไม่ใช่จังหวัดภูเก็ต แต่เปลี่ยนปลายทางเป็นชายแดนไทย-มาเลเซีย ก็สามารถไปถึงได้
เมื่อขบวนรถไฮลักซ์ วีโก้ ได้เดินทางไปถึงแหลมพรหมเทพ นายบุญชวน วิภูษณวนิช ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ จากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย พร้อมด้วย นายวิบูลย์ชัย ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด จ.ภูเก็ต ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ พรีเซ็นเตอร์ภาพยนตร์โฆษณาไฮลักซ์ วีโก้ ชุดใหม่ ตลอดจนผู้บริหารจากเทศบาลตำบลราไวย์ และนักเรียนจากโรงเรียนในสังกัดกว่า 300 คน ได้มาคอยต้อนรับขบวนรถคาราวานไฮลักซ์ วีโก้ พร้อมกันนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังได้มอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์กีฬา มูลค่ารวมกว่า 70,000 บาท ให้แก่นักเรียน

ตลอดเส้นทางกว่า 1,565 กิโลเมตร กับการใช้น้ำมันไปกว่า 60 ลิตร ไม่ใช่แค่คนขับที่มีส่วนร่วมในการท้าทายสมรรถนะประหยัดน้ำมันในครั้งนี้เท่า นั้นที่ทำได้ หากแต่ใคร ๆ ก็สามารถขับให้ประหยัดน้ำมันได้ เพียงขอให้ใช้ความเร็วที่กฎหมายกำหนด ไม่กระชากคันเร่ง ค่อย ๆ กดคันเร่งอย่างนุ่มนวล การประหยัดน้ำมันของรถกระบะโตโยต้า วีโก้ พรีรันเนอร์ สมาร์ทแค็บ 2.5 VN TURBO หมายเลข 2 คันนี้...เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้...

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น