12 มีนาคม 2553

เก๋งเล็กระอุ "มาร์ช" เริ่มต้นราคา 3.75 แสนบาท บี-คาร์เรียงหน้าแลกหมัด

เก๋งเล็กระอุ "มาร์ช" เริ่มต้นราคา 3.75 แสนบาท บี-คาร์เรียงหน้าแลกหมัด
ตลาดเก๋งเล็กร้อนระอุ! เมื่ออีโคคาร์คันแรกของเมืองไทย “นิสสัน มาร์ช” เตรียมบุกตลาด ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ด้วยรูปลักษณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่สำคัญราคาเคาะเริ่มต้น 3.75 แสนบาทและสูงสุด 5.37 แสนบาท ทำให้ตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์ หรือบีคาร์ แม้จะอยู่คนละเซกเม้นท์ แต่ด้วยมิติตัวถังที่ใกล้คียง จึงได้รับส่งผลสะเทือนไปตามๆ กัน ถึงต่างจะประสานเสียงเข็งยันไม่กระทบ แต่ก็เรียงหน้าแลกหมัดดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการชิงเปิดตัวของ “โตโยต้า วีออส” ใหม่ และถูกตลบหลังจากมาสด้า ที่เตรียมส่งเวอร์ชั่น 4 ประตู ของ “มาสด้า2” มาช่วยรุ่น 5 ประตู ที่ผงาดขึ้นแท่นผู้นำรุ่นแฮ็ทช์แบ็กไปแล้ว ปั๊มยอดขายปีนี้ให้บรรลุเป้า 2.4 หมื่นคัน โดยเคาะราคา 5.3-6.8 แสนบาท แถมอีโคคาร์นิสสันยังโดนหวดซ้ำจาก “ฟอร์ด เฟียสต้า” ที่แม้จะตัวเล็กแต่พกหัวใจมาถึง 1.6 ลิตร ฉีกจากตลาดบี-คาร์ทั่วไป เป็นจุดขายล่อใจผู้บริโภคชาวไทยให้จองรถ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 ปลายเดือนมีนาคมนี้

Mazda 2 Sedan


นับเป็นช่วงร้อนระอุของเมืองไทยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ร้อนแบบสุดๆ แล้ว เหตุการณ์ทางการเมืองยังต้องนับถอยหลังอีกระลอก กับการประกาศนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 14 มีนาคมที่จะถึงนี้ แต่จะเริ่มระดมพลทยอยบุกกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมเป็นต้นไป ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองไทยเขม้งเกลียวเข้ามาทุกขณะ แต่ไม่ใช่เพียงแค่อากาศและเหตุการณ์บ้านเมืองเท่านั้น ในช่วงนี้แวดวงรถยนต์ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เมื่อค่ายรถต่างพร้อมใจกันส่งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือเก๋งเล็กรุ่นใหม่บุกตลาด โดยเฉพาะการเปิดตัวของ “นิสัน มาร์ช” อีโคคาร์โมเดลแรกในไทย ที่ถือฤกษ์เอาช่วงวันที่ 12-14 มีนาคมนี้เขย่าตลาดรถยนต์ไทย เช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดงเขย่ารัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จริงๆ แล้วตลาดเก๋งขนาดเล็กเริ่มร้อนแรงมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จากการเปิดตัวของ “มาสด้า2” สู่ตลาด แต่พอย่างเข้าสู่ปีเสือไฟหัวเชื้อที่ถูกจุดไว้แล้ว พอเจอน้ำมันจากอีโคคาร์ของค่ายนิสสันลาดเข้าไปอีก จึงทำให้เปลวไฟของตลาดเก๋งเล็กร้อนระอุแบบสุดๆ และองศาแทบปรอทแตก เมื่อนิสสันได้เผยโฉม “ไมครา” สำหรับทำตลาดในยุโรป หรือ“มาร์ช”ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นว่าที่อีโคคาร์ในไทย และว่ากันว่าจะใช้ชื่อ “มาร์ช” เช่นเดียวกัน...

เท่านั้นแหละทันทีที่ภาพข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้เว็บไซต์ต่างๆ มีผู้คนเข้ามาชมและติดตามอ่านข่าวกันอย่างล้นหลามจริงๆ อย่างในเซกชั่นมอเตอริ่งของ “ASTV ผู้จัดการออนไลน์” มีคนเข้ามาคลิ๊กอ่านข่าวนิสสัน ไมครา/มาร์ช เพียงวันเดียวถึงร่วมแสนครั้ง!!

แน่นอนว่าความร้อนแรงของอีโคคาร์นิสสัน จุดสนใจเริ่มต้นอยู่ที่ราคาเป็นอันดับแรก เพราะมีกระแสข่าวปล่อยออกมาตลอดว่า... จะเป็นรถที่มีราคาต่ำ แม้ในช่วงหลังผู้บริหารของนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จะพยายามออกมาปรับภาพลักษณ์ ให้เป็นรถราคาสมเหตุสมผล ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายก็ตาม

จนกระทั้งเข้าสู่ปีเสือไฟ เริ่มมีการปล่อยราคาออกมาเป็นตัวเลขอยู่ที่ 3xx,xxx บาท และค่อยๆ เพิ่มตัวเลขเป็นเริ่มต้น 3.9 แสนบาท... 3.5... 3.6...3.79 และ 3.89 แสนบาทบ้าง

เหตุนี้จึงได้พากันสรุปราคาของอีโคคาร์นิสสัน น่าจะเริ่มต้นไม่เกิน 4 แสนบาท และสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 5.3 แสนบาท นับเป็นราคาที่น่าสนใจทีเดียว ทีนี้ก็เหลือเพียงเรื่องรูปลักษณ์เท่านั้นจะถูกตาโดนใจหรือไม่?

Nissan March


ขณะที่เครื่องยนต์และเทคโนโลยีต่างๆ ต่างได้รับข้อมูลที่ปล่อยออกมาตรงกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และแบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะระบบหลังมีจุดเด่นเป็นเกียร์แบบ CVT ที่ใช้ในรถขนาดกลาง “นิสสัน เทียน่า” และยังมี idle-stop หรือระบบดับเครื่องยนต์ขณะจอด เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานอีกด้วย

ดังนั้นเมื่อนิสสัน มอเตอร์ เปิดตัว “นิสสัน ไมครา” ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 ความร้อนแรงของอีโคคาร์นิสสันยิ่งระอุแบบสุดๆ (อ่านรายละเอียดhttp://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000029987) เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ หรือข้อมูลเทคนิค ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ นิสสัน ไมครา กับอีโคคาร์ในไทย หรือนิสสัน มาร์ช แทบจะไม่แตกต่างกันเลย ยกเว้นรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น


สำหรับเรื่องของราคาล่าสุดค่อนข้างชัดเจนแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.75-5.37 แสนบาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ซึ่งช่วงแรกจะส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้เฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT จะส่งมอบได้ในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป แต่รายละเอียดที่ถูกต้องชัดเจนทั้งหมด คงต้องรอวันศุกร์ที่ 12 มีนาคมนี้ ที่เป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชน และจะมีการจัดงานเปิดตัวกับสาธารณะวันที่ 13-14 มีนาคม 2553 ที่เซ็นทรัลเวิลด์

การเปิดตัวของ “นิสสัน มาร์ช” แม้ในทางการจะเป็นรถยนต์ในเซกเม้นท์ใหม่ หรือถือเป็นกลุ่มเอ-เซกเม้นท์ แต่ด้วยมิติตัวถังที่ใกล้เคียงกับซับคอมแพ็กต์ หรือบี-คาร์ ที่ทำตลาดอยู่ในไทยมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ, โตโยต้า วีออส/ยาริส, เชฟโรเลต อาวีโอ และล่าสุดมาสด้า2 ตลอดจน ฟอร์ด เฟียสต้า ที่จะเปิดขายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 นี้ จึงทำให้ต่างพากันหนาวๆ ร้อนๆ ไม่มากก็น้อย แม้ทั้งหมดจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่หวั่นและเป็นคนละตลาดก็ตาม

แต่ความเคลื่อนไหวของบี-คาร์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ได้ทำให้ตลาดเก๋งขนาดเล็กดุเดือดเป็นอย่างมาก ถึงจะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ไม่ว่าจะมีอีโคคาร์ของนิสสันหรือไม่ก็ตาม โดยยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ของซับคอมแพ็กต์ตัวเก่ง “วีออส” ใหม่สู่ตลาด ก่อนหน้านิสสัน มาร์ช เพียงแค่ 4 วันเท่านั้น

Toyota Vios


ทั้งนี้โตโยต้า วีออส ใหม่ ภายนอกได้รับการเปลี่ยนกระจังหน้า พร้อมแถบโครเมี่ยม ไฟท้ายแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ดีไซน์ใหม่ คิ้วกระโปรงท้าย ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ พร้อมยางขนาด 185/60R15 ไฟตัดหมอกหน้า

ขณะที่ภายในแผงคอนโซลกลาง และประตูตกแต่งแบบเมทัลลิกใหม่ หัวเกียร์หุ้มหนังและฐานเกียร์โครเมี่ยม และช่องเสียบ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ พร้อมกับ 2 สีใหม่ คือ สีแดง Blackish Red Mica และสีฟ้า Light Blue Mica Metallic โดยมีสนนราคาเริ่มต้นที่ 5.14-7.14 แสนบาท ปรับเพิ่มขึ้น 1-1.5 หมื่นบาท

Ford Fiesta


นอกจากโตโยต้าที่ชิงตัดหน้าปิดตัวรถใหม่ก่อน นิสสัน มาร์ช ยังถูกตลบหลังอีกจากค่าย “มาสด้า” ที่เตรียมจะเปิดตัวเวอร์ชั่น 4 ประตู หรือรุ่นซีดาน ของ “มาสด้า2” ที่กำลังร้อนแรงในตลาดซับคอมแพ็กต์ โดยสามารถผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของรถแบบแฮ็ทช์แบ็กได้สำเร็จ หลังจากเปิดตัวได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น และมาสด้ายังหวังว่ารุ่นซีดานนี่แหละ จะเป็นตัวธงให้มาส้ดา 2 บรรลุเป้าหมายยอดขายปีนี้ทะลุ 2.4 หมื่นคัน หรือรวมทุกรุ่น 3.5 หมื่นคัน จากที่ผ่านมาทำได้เพียงปีละกว่าหมื่นคันเท่านั้น

“อีโคคาร์ของนิสสันไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อมาสด้า2 เพราะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญมาสด้า2 มีความโดดเด่นในเรื่องของรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสปอร์ต สมรรถนะเครื่องยนต์และการขับขี่ตอบสนองได้ดี และจากข้อมูลลูกค้าที่ซื้อรถมาสด้า2 ส่วนใหญ่จะซื้อรุ่นราคา 6.4 แสนบาทขึ้นไป ฉะนั้นลูกค้าที่จะซื้อรถมาสด้าคงไม่ใช่ผู้ที่จะซื้อรถราคา 4-5 แสนบาทแน่นอน”

นั่นเป็นคำกล่าวของ “สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” และบอกว่า มาสด้าเชื่อมั่นจะประสบความสำเร็จในตลาดรถขนาดเล็ก เพราะเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทย โดยเฉพาะรถมาสด้า2 รุ่นซีดาน หรือ 4 ประตู ที่กำลังจะเปิดตัวสู่ตลาดในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามลงตัว และสมรรถนะที่ดี ห้องเก็บของด้านท้ายขนาดใหญ่ ราคาเหมาะสมเริ่มต้นประมาณ 5.3-6.8 แสนบาท จึงเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

Ford Fiesta Sedan


ต่อจากมาสด้า2 รุ่นซีดานแล้ว เก๋งขนาดเล็กน้องใหม่ “ฟอร์ด เฟียสต้า” ก็จะโดดลงมาร่วมชิงเค้กกับเขาด้วย หลังจากได้ชิงลางเผยโฉมไปในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ปลายปีที่ผ่านมา ครั้งนี้จึงได้ฤกษ์เปิดรับจองเสียที ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 ปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป

“สาโรช เกียรติเฟื่องฟู” รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ด เฟียสต้า มีให้เลือกทั้งรุ่นแฮ็ทช์แบ็ก และ 4 ประตู โดยเป็นรถซับคอมแพ็กตที่แตกต่างจากคู่แข่งทั่วไป จากการติดตั้งเครื่องยนต์บล็อกใหม่1.6 ลิตร ขณะเดียวกันยังได้เกียร์แบบเพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด (ดูอัลคลัทซ์) ทำให้การส่งกำลังไหลลื่นพร้อมการประหยัดน้ำมันอีกด้วย

“เฟียสต้ามีจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง 3 ประการชัดเจน คือ นอกจากสมรรถนะในการขับขี่ดีแล้ว เรายังกล้ายืนยันว่าเฟียสต้าจะเป็นรถที่กินน้ำมันน้อยกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ส่วนเรื่องราคายังไม่กำหนดเป็นทางการ แต่คงไม่แตกต่างจากคู่แข่งอยู่แล้ว เบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 5.5-7.0 แสนบาท แต่อาจจะต้องรอดูผลของการเปิดตัวอีโคคาร์ของนิสสัน เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจตั้งราคาเฟียสต้าด้วย”

สำหรับผลกระทบจากการเปิดตัวรถในโครงการอีโคคาร์ ที่มีต่อรถในระดับบี-เซกเมนต์ สาโรชบอกว่าวันนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังไม่เห็นอีโคคาร์ตัวจริง จุดสำคัญจะกระทบมากน้อยเพียงไร อยู่ที่ขนาดของตัวถังอีโคคาร์ ส่วนเรื่องราคาก็พอจะทราบกันบ้างแล้ว จึงต้องรอดูขนาดจริงของตัวรถเป็นหลักอีกอย่างหนึ่ง...

แน่นอนว่าคงไม่ต้องเสียเวลารอนาน เพราะหลังจากวันที่ 12 มีนาคมที่จะถึงนี้ ทุกอย่างคงได้คำตอบว่า… “อีโคคาร์” จะส่งผลสะเทือนต่อซับคอมแพ็กต์ หรือบี-คาร์หรือไม่? แต่ที่ชัดแจ้งแดงแจ๊ตลาดเก๋งขนาดเล็กฟาดฟันกันดุเดือดแน่!

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์[ http://www.manager.co.th/]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น