05 กุมภาพันธ์ 2553

ขับยังไงก็ประหยัด 1ถังดอยสุเทพถึงแหลมพรหมเทพ


ขับยังไงก็ประหยัด 1ถังดอยสุเทพถึงแหลมพรหมเทพ
ด้วยน้ำมันถังเดียวคุณว่าไฮลักซ์วีโก้ ไปได้ไกลแค่ไหน! สำหรับกิจกรรมทดสอบสมรรถนะความประหยัดปิกอัพ ไฮลักซ์วีโก้ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร VN เทอร์โบครั้งล่าสุด มันแสดงให้เห็นแล้วว่า หากคุณขับด้วยความเร็วคงที่ได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยความเร็วราวๆ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางจากทางขึ้นดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ถึงปลายแหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต 1,500 กว่ากิโลเมตร น้ำมันถังเดียวเหลือๆ

การทดสอบสมรรถนะความประหยัดระยะทางไกลขนาดนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แบ่งการขับขี่ทั้งหมดเป็น 4 ช่วง คือ จากจุดเริ่มต้นทางขึ้นดอยสุเทพ เชียงใหม่มายังจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยเส้นทางถนนสายเอเชีย ช่วงที่ 2 ขับจากจังหวัดนครสวรรค์ ลงมาเฉียดกรุงเทพฯ ผ่านต่อไปยังเส้นทางสายใต้ จนถึงอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ช่วงที่ 3 นั้นเป็นการขับจากปราณบุรี ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี และช่วงสุดท้าย จะเดินทางต่อไปยังปลายทางคือแหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ใช้เวลาการขับขี่ระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2553 เฉลี่ยการเดินทางวันละประมาณ 400 กิโมเมตรเศษๆ เว้นแต่ช่วงสุดท้ายนั้นใช้ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตรเท่านั้น

มีปิกอัพไฮลักซ์วีโก้ทั้งหมด 5 คัน 2 คันเป็นรถของผู้ใช้ไฮลักซ์วีโก้ที่ชนะการแข่งขันประหยัดน้ำมัน อีก 3 คันประกอบด้วยทีมสือมวลชนที่มีด้วยกันจาก 8 สื่อ,ทีมงานโตโยต้าพร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ทวีป ชัยสมภพ อาจารย์ที่มาเป็นสักขีพยาน จาก สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติ ศูนย์สิรินทร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคุณติ๊ก จงกลณี สถิรอัศวนันท์ จากรายการพจญภัยไร้พรมแดน

ผมเป็น 1 ใน 8 ของทีมสื่อมวลชนที่มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะความประหยัด ในคอนเซ็ปต์ 1 น้ำมันถัง จากดอยสุเทพถึงแหลมพรหมเทพ หากดูจากตัวเลขระยะทางทั้งหมด 1,538.8 กิโลเมตรแล้ว ด้วยโตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ ที่มีความจุถังน้ำมันประมาณ 70 ลิตร คำนวนแล้วตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองต้องได้ไม่ต่ำกว่า 22 กิโลเมตรต่อลิตร

ตัวเลขขนาดนี้กับเครื่องยนต์ 2.5 VN เทอร์โบ 144 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดอีก 343 นิวตันเมตร ก็คิดว่าทำได้ไม่ยาก ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าจะหยัดได้สูงสุดเท่าไหร่

ผมขับในช่วงผลัดที่ 2 คือจากนครสวรรค์ ถึงปราญบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวม 458 กิโลเมตร ผลัดกับเพื่อนสื่อจากรายการวิทยุโชว์รูมออนแอร์ ทาง FM 89.5 คนละประมาณ 100 กิโลเมตรเศษๆ เป็นการขับขี่ด้วยเงื่อนไขที่ต้องเปิดแอร์เบอร์ 2 ตลอดเส้นทาง

อันที่จริงการขับขี่เพื่อให้ประหยัดนั้น หนักการคือ การพยายามรักษาความเร็วคงที่ให้นานที่สุด การเดินคันเร่งก็ต้องทำอย่างแผ่วเบา ไม่เร่งเครืองรุนแรงโดยไม่จำเป็น และวางแผนการขับขี่ไว้ล่วงหน้าด้วยการมองการจราจรข้ามไปข้างหน้าไกลๆ เผื่อกรณีต้องเจอกับการจราจรติดขัด หรือสัญญาณไฟแดง จะได้ถอนเท้าจากคันเร่งล่วงหน้า

นอกจากนี้ข้อดีของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร VN เทอร์โบ ที่มีแรงบิดสูงที่ให้การเพิ่มของเครื่องให้มาอยู่ในระดับที่ต้องการเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม้จะกดน้ำหนักลงคันเร่งอย่างนุ่มนวล ซึ่งก็น่าจะช่วยให้มันประหยัดได้ดีขึ้น

ผมใช้เวลาขับขี่ประมาณชั่วโมงเศษ กับระยะทาง 1 ช่วงคือราวๆ 120 กิโลเมตร ไม่ถือว่านัก หากเที่ยบกับการใช้รถยนต์เดินทางไปมาระหว่างจังหวัดหรืออำเภอ ความเร็วสูงสุดคือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากประหยัดแล้ว ความเร็วระดับนี้ปลอดภัย 100% เพราะเป็นความเร็วที่สามารถควบคุมได้ง่าย โดยเฉพาะการเบรก แม้จะต้องเจอกับสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเช่นรถจักรยานยนต์ หรือสุนัขวิ่งตัดหน้าระยะกระชิดก็ตาม

หน้าที่ของผมสิ้นสุดในช่วง 4 โมงครึ่งของวันที่ 26 มกราคม ที่อำเภอปราณบุรี เลขไมล์ระยุว่า มันวิ่งมาแล้วกว่า 900 กิโลเมตร จากทางขึ้นดอยสุเทพ แต่แข็มน้ำมันกลับตกลงมา 1 ขีดวัดกับอีกนิดหน่อย ผมทราบจากเพื่อนที่รับช่วงต่อผลัดที่ 3 ว่า จากปราญบุรีถึงสุราษฎร์ธานี เข็มน้ำมัน ตกลงต่ำกว่าครึ่งถังเพียงนิดน้อย

ขณะที่วันสุดท้ายของคาราวานประหยัดน้ำมัน ที่แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ยังไม่ปรากฏไฟเตือนน้ำมันในไฮลักซ์วีโก้ ทั้ง 5 คัน เมื่อเติมน้ำมันเข้าไปเพื่อวัดปริมาณการใช้น้ำมันปรากฏว่า คันที่ประหยัดที่สุดคือรถของลูกค้าโตโยต้า เติมไป 58.93 ลิตร เทียบอัตราสิ้นเปลืองได้ 25.96 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนคันที่ผมขับเติมไป 59.94 ลิตร ได้ตัวเลข 25.79 กิโลเมตรต่อลิตร

ที่น่าตื่นเต้นคือคันที่คุณ ติ๊ก จงกลณี จากรายการผจญภัยไร้พรหมแดน เป็นหญิงสาวหนึ่งเดียวที่ขับเองตลอด 4 วัน ที่สำคัญคือเธอไม่เคยเข้าร่วมทริปขับประหยัดแบบนี้มาก่อน ใช้น้ำมันไป 61.15 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราสิ้นเปลือง 25.35 กิโลเมตรต่อลิตรเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าใครจะขับหากใช้ความเร็วเหมาะสม ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ได้ผลลัพธ์ใกล้กัน


ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์/http://www.managerweekly.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น